เงินบาทเริ่มอ่อนค่ามองเป็นบวกกับหุ้นท่องเที่ยว
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 171 จุด (-0.37%) นักลงทุนเริ่มขายทำกำไรจากการที่ดัชนีปรับขึ้นมาค่อนข้างมาก ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.5% หลังสหรัฐฯ รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลงมากกว่านักวิเคราะห์ประเมินไว้
Market Outlook
เมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน ส.ค. พบว่าขยายตัวเพียง 5.8%YoY และเมื่อไม่รวมสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยจะขยายตัวต่ำที่ 5.4%YoY น้อยกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้ที่ 7%YoY โดยขาดดุลการค้า 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าการส่งออกขยายตัวชะลอลง หลังจากที่มีการบังคับใช้อัตราภาษีตั้งแต่ช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาประกอบกับผู้นำเข้าส่วนใหญ่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการวางแผนจัดการความเสี่ยงด้านราคา หากพิจารณารายประเทศจะพบว่าการขยายตัวส่งออกขยายตัวลดลงในแทบทุกประเทศยกเว้นไต้หวันที่อาจเป็นเพราะส่งออก Semiconductor สำหรับสินค้าพบว่าเริ่มเห็นหลายๆ สินค้าหดตัว อาทิ ข้าว (-30%YoY) ยางพารา (-28%YoY) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (-10%YoY) อาหารสัตว์เลี้ยง (-5.6%YoY) มองเป็นแรงกดดันต่อหุ้น STA TU ITC สำหรับความคาดหวัง Golden Week ของจีนที่จะเริ่มในช่วงวันที่ 26 ก.ย. – 8 ต.ค. สาเหตุเพราะว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดือนส.ค.ติดลบมากถึง (-38%YoY) และติดลบตั้งแต่เดือน ก.พ. จนถึงเดือน ส.ค. เฉลี่ยในช่วง (-40%YoY) สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักท่องเที่ยวจีน เป็นไปได้จากหลายปัจจัย (ความปลอดภัย ความเชื่อมั่นสินค้าที่ราคาสูงขึ้น) ขณะเดียวกันทาง Fitch Rating ก็ได้ออกมาปรับมุมมองเป็นเชิงลบ แต่ยังคงอันดับ Rating ไว้ที่ BBB+ เพราะมองว่ามีความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้จะได้รัฐบาลใหม่แล้ว แต่เป็นรัฐบาลเสี่ยงปริ่มน้ำประกอบกับเศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ประกอบกับหนี้สาธารณะรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 59% ของ GDP ทาง Fitch กังวลว่าการขาดดุลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะปานกลาง พร้อมระบุว่าหากแนวโน้มการควบคุมหนี้หรือขาดดุลไม่เป็นไปตามที่ประเมินไว้ที่อาจเร่งให้มีการปรับ Credit Rating แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีจุดแข็งคือดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ในระดับที่ดีและหนี้ส่วนใหญ่เป็นสกุลบาท (ระยะสั้นประเมินเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยเล็กน้อย) ส่วนการยุบสภาทางนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะเกิดขึ้นในช่วง ม.ค. 26 โดยคาดเลือกตั้งใหม่ที่ เม.ย. 26
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในครอบ 1265 – 1285 แม้ Fitch อาจออกมาปรับลดมุมมองแต่ยังไม่เป็นปัจจัยกดดันที่มีนัยยะ เพราะตลาดจะคาดหวังไปยังข้างหน้าเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดโดยไม่มีต้นทุนได้แก่การท่องเที่ยวเชื่อว่ารัฐบาลจะเล็งเห็นตรงนี้ จึงมองกลุ่มท่องเที่ยวนำสนใจและได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า (AOT CENTEL MINT) กลุ่มส่งออก (ITC) ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) รับปัจจัยหนุนการกระตุ้นของภาครัฐ
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 36.00 บาท)
ผลประกอบการใน 2H25 เดิบโตสูงกว่าใน 1H25 เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับผลบวกจากภาระดอกเบี้ยลดลง ต่อเนื่อง ขณะที่ใน 4Q25 โรงแรมหลักในไทยที่ปิดปรับปรุงจะกลับมาเริ่มเปิดให้บริการช่วงเดือนพฤศจิกายนประกอบกับอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศมัลดีฟล์ใหม่ทะยอยหนุน Occupancy เติบโตแข็งแคร่ง
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)
คาดเห็นทยอยรับรู้ Synergy benefits ต่อเนื่องในช่วง 2H25 แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือนก.ค. 2025 ยังทรงตัว YoY