KS Daily View 30.09.2025 >>> ติดตามประชุม ครม. พิจารณา “คนละครึ่ง”และการใช้งบฯ ปี 2025 ที่เหลือ กรอบ SET วันนี้ 1,275-1,300 จุด แนะนำ ADVICE CK
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.26%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.48%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.15% จากหุ้นที่เชื่อมโยงกับการลงทุนด้าน AI ฟื้นตัวจากสัปดาห์ก่อน ในขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนยังคงมั่นใจว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม “Magnificent Seven” และผู้ผลิตชิปหลักรายอื่น ๆ จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้การเติบโตของกำไรตลาด
ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,288.07 จุด เพิ่มขึ้น 9.33 จุด (+0.73%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มธนาคาร, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideway up ในกรอบ 1,275-1,300 จุด โดยSET index อาจลุ้นมีการปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านเชิงจิตวิทยา 1,300 จุด จากภาพเชิงบวกในประเทศที่จะมีการประชุม ครม. ในวันนี้เพื่อพิจารณาโครงการ “คนละครึ่ง” และวาระอื่น ๆ รวมถึงการอนุมัติใช้งบประมาณปี 2025 ที่เหลือ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ภาพของต่างประเทศยังคงมีความผันผวนหลัง จากความกังวลเรื่องของ government shutdown ในระหว่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเจรจากับสภาคองเกรสเพื่อหาข้อตกลงงบประมาณฉุกเฉิน อาจส่งผลให้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าช้าออกไป ซึ่งกระทบต่อการตัดสินใจของ Fed ต่อนโยบายการเงิน ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ อย่าง ADVICE และ CK
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- Fitch Ratings ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารไทย 5 แห่ง (EXIM, KTB, TTB, SCBT, UOBT) เป็น “ลบ” หลังจากปรับแนวโน้มเครดิตรัฐบาลไทยเป็น “ลบ” (BBB+/Negative) โดยสะท้อนความเสี่ยงด้านความสามารถของรัฐในการสนับสนุนและข้อจำกัดจากเพดานเครดิตประเทศ ขณะที่ BBL, BAY, KBank, SCB และ SCBX ยังคง “เสถียรภาพ” ส่วน Viability Rating ของธนาคารหลักยังคงเดิม ยกเว้น BBL ที่แนวโน้มด้านสภาพคล่องถูกปรับเป็น “ลบ” ทั้งนี้ หากเครดิตประเทศถูกลด ธนาคารที่พึ่งพาการสนับสนุนจากรัฐหรือเพดานเครดิตประเทศอาจถูกปรับลดตาม แต่หากเครดิตประเทศกลับมามีเสถียรภาพ แนวโน้มเครดิตธนาคารก็อาจถูกปรับกลับเช่นกัน
- ททท. เปิดเผยว่าในช่วง 1 ม.ค.–21 ก.ย. 2025 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยลดลง 7% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจซบเซา ภาพลักษณ์ความปลอดภัย มาตรการภาษีสหรัฐ-ไทย สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และล่าสุดเงินบาทแข็งค่า โดยตลาดจีนลดลง 33% เหลือ 205,200 คน เริ่มหดตัวน้อยลงเทียบกับช่วงเดือนพ.ค. -ส.ค.ที่หดตัว 35-40% มองเป็นบวกเล็กน้อยกับกลุ่มท่องเที่ยวอย่าง AAV BA CENTEL ERW SHR ที่เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน
- กระทรวงแรงงานและพาณิชย์สหรัฐฯ ประกาศว่าหากเกิด government shutdown หน่วยงานสถิติจะหยุดเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เช่น รายงานการจ้างงานเดือนก.ย., การใช้จ่ายก่อสร้าง และอาจรวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนส.ค. ซึ่งกระทบต่อการตัดสินใจของ Fed, โดยข้อมูลบางชุด เช่น การจ้างงานรายพื้นที่ ยังเผยแพร่ได้ตามกำหนด แต่หากปิดยาวอาจทำให้เลื่อนการประเมิน GDP ไตรมาส 3 ที่มีกำหนดปลายต.ค. รวมถึงรายงาน CPI ขณะเดียวกันประธานาธิบดีทรัมป์กำลังเจรจากับสภาคองเกรสเพื่อหาข้อตกลงงบประมาณฉุกเฉิน
- ในขณะเดียวกัน ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยทองฟิวเจอร์ทะลุ 3,850 ดอลลาร์ และทองสปอตเกิน 3,820 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงหนุนตัวเลขPCE ที่ตรงคาด ทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งปีนี้รวมถึงความเสี่ยงชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐ ขณะประธานาธิบดีทรัมป์เตรียมหารือแกนนำสภาคองเกรสเพื่อหาทางเลี่ยงวิกฤติ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ AURA
- ราคาน้ำมันโลกร่วงกว่า 3% จากความกังวล supply ที่ออกมามากขึ้นหลังอิรักและเขตเคอร์ดิสถานบรรลุข้อตกลงกลับมาส่งออกน้ำมันผ่านตุรกีรอบ 2 ปีครึ่ง ราว 180,000–190,000 บาร์เรล/วัน และอาจเพิ่มถึง 230,000 บาร์เรล/วัน ประกอบกับแผน OPEC+ ที่จะเพิ่มกำลังผลิตอีกอย่างน้อย 137,000 บาร์เรล/วันในพฤศจิกายน แม้ปัจจุบันยังผลิตต่ำกว่าโควตามองเป็นลบกับ PTTEP
Daily pick
ADVICE : ราคาพื้นฐาน 7.78 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ ADVICE ด้วยที่หนึ่งในผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่และเหนือกว่าคู่แข่งในด้านจำนวนสาขา ฐานรายได้ และโอกาสการเติบโตจากการขยายร้านค้าปลีกอย่างรวดเร็ว และบริษัทได้ประกาศเป้าหมายการขยายร้านค้าปลีกในรูปแบบ iStore ตั้งเป้าให้ถึง 70 สาขาภายในสิ้นปี 2026 เทียบกับ 6 สาขาในปี 2024 ในส่วนของผลประกอบการโดยรวมของ ADVICE ในครึ่งแรกของปี 2025 ดูดีกว่าผู้ค้าปลีกไอทีรายย่อย เช่น CPW และ IT City กำไรครึ่งแรกของปี 2025 เติบโต 17.7% YoY เทียบกับ CPW ที่ 17.4% และ IT City ที่ 9%
CK : ราคาพื้นฐาน 21.50 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อเนื่องกับ CK จากการเร่งเบิกจ่ายของงบประมาณปี 2025 หลังรมว.คมนาคม ตั้งเป้าเบิกครบ ก.ย.นี้ พร้อมเร่งลงนาม 5,137 โครงการ วงเงิน 4.7 หมื่นล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะงบปี 2026 ได้รับ 2.65 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เน้นลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ 22 โครงการ วงเงินรวม 9.1 แสนล้านบาท ในขณะเดียวกันคาดรายได้ใน 2H25 จะสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการรับรู้โครงการใหม่และคาดว่าจะสามารถได้โครงการใหม่เช่น รถไฟความเร็วสูงไทยจีนเฟส 2 และ โครงการทางด่วน double-deck เช่นกัน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
วันอังคาร ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (NBS Manufacturing PMI) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.6 จุดเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.4 จุด ต่อด้วยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทย (TH Industrial Production) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -2.00% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -3.98% YoY และ ตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐ (US JOLTS Job openings) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 7.17 ล้านตำแหน่งชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 7.18 ล้านตำแหน่ง
วันพุธ ติดตามตัวเลขผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของไทย (TH S&P Global Manufacturing PMI) เดือน ก.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 52.7 จุด ต่อด้วย ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งแรก (EU CPI)เดือน ก.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.2% YoY เร่งตัวจากครั้งก่อนหน้าที่ +2.0% และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (EU Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +2.3% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าปิดท้ายด้วย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐอเมริกา (US ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 49.0 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 48.7 จุด
วันพฤหัสบดี ติดตามการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรป (EU unemployment rate) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.3% ต่อด้วยการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานในสหรัฐ (US Factory Orders) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -1.3% MoM ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.25 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.18 แสนตำแหน่ง
วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.50 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.22 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.3% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
