ตลาดหุ้นไทยยังมีทิศทางที่ดีขึ้นช่วงถัดไป

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 81 จุด (+0.18%) ตลาดยังได้ปัจจัยหมุนจากความคาดหวังผ่อนคลายนโยบายการเงิน แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานในสหรัฐฯ ก็ตาม ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.4% หลังมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ อาจเพิ่มกำลังการผลิตอีก

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศตำแหน่งเปิดรับสมัครงาน (Job Openings) พบว่าดีกว่า Bloomberg Consensus คาดการณ์ไว้เล็กน้อย พร้อมกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB แต่ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้  ถ้อยแถลงภายในระบุว่ามุมมองต่อธุรกิจเป็นไปในทิศทางเชิงบวกน้อยกว่าช่วงก่อนหน้า พร้อมกับความเชื่อมันในตลาดแรงงานที่ลดลง เมื่อถามถึงแผนการซื้อรถยนต์พบว่าอ่อนตัวลง อย่างไรก็ตาม แผนการซื้อบ้านปรับเพิ่มขึ้น โดยรวมสะท้อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ค่อยๆ ฟื้นตัว ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้น และตลาดหุ้นสหรัฐฯก็เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่เพียงเล็กน้อย (NVIDIA +2.6% Eli lilly +5%)

สำหรับปัจจัยในประเทศ วานนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานภาวะเศรษฐกิจประจำเดือน ส.ค. พบว่าการบริโภคทรงตัวเทียบกับเดือนก่อน แต่การบริโภคสินค้าคงทนลดลงจากยอดจำหน่ายรถยนต์นั่ง และยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เป็นสำคัญ เพราะผู้บริโภคชะลอการซื้อเพื่อรอ Promotion ใน Motor Expo ด้านการลงทุนภาคเอกชนลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ส่วนการท่องเที่ยว ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง YTD สะสมที่ 23.9 ล้านราย (-7.5%YoY) จำนวน นักท่องเที่ยวจีนยังคงลดลงเป็นอันดับ 2 จากที่เคยอยู่อันดับแรก ระหว่างนี้รอติดตามช่วง Golden Week (1-7 ต.ค.) ช่วงวันหยุดยาวของจีนว่าจะได้เห็นการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนหรือไม่ หากยังไม่ฟื้นตัวอาจสะท้อนว่าพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนได้เปลี่ยนไป

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลือนไหวในกรอบ 1265 – 1285 ตลาดหุ้นไทยย่อตัวช่วงก่อนหน้าแต่ยังประเมินเป็นเพียงระยะสั้น เชื่อว่านักลงทุนยังมีความคาดหวังเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะประชุมอีกครั้งในวันที่ 8 ต.ค. เชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะพักตัวยังมองเป็นโอกาสเข้าหาจังหวะสะสมในกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) การเงิน (MTC) เพื่อรอจังหวะฟื้น ตัวในช่วงถัดไปรับกับมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 137.00 บาท)

SCB มุ่งมั่นในการเพิ่ม ROE และรักษาผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผลสูง โดยคาดผลตอบแทนเงินปันผลสูงสุดในกลุ่มธนาคารที่ 9.2% และคาดกำไรสุทธิปี 2025 จะเติบโตโดดเด่นที่สุดในกลุ่มธนาคารใหญ่ที่ 7.2% ในปี 2025

CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 26.00 บาท)

คาดเห็นทยอยรับรู้ Synergy benefits ต่อเนื่องในช่วง 2H25 แม้ว่าแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเติม (SSSG) ช่วงเดือนก.ค. 2025 ยังทรงตัว YoY

- Advertisement -