KS Daily View 2 ต.ค. 2025>>> คาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,265-1,290 จุด หลัง SET index ปรับตัวแบบไร้ทิศทางจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาในขณะเดียวกันอาจเห็นการปรับตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมตามข่าว หรือ ปัจจัยบวกเฉพาะที่เข้ามากระทบ แนะนำ KCE และ WHA

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 0.34%, Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.42%, และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.09%จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสาธารณสุข ขณะที่นักลงทุนมองข้ามข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนกว่าคาด และความไม่แน่นอนจากวันแรกของการปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐ หลังเกิด government shutdown

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,275.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด (+0.07%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มขนส่ง, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,265-1,290 จุด หลัง SET index ปรับตัวแบบไร้ทิศทางจากช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังรับรู้ปัจจัยบวกไปแล้วจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆของรัฐบาล  หากยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่มากระทบอาจเห็นภาพของ SET index เป็นรูปแบบของการเคลื่อนตัวในกรอบ ในขณะเดียวกันอาจเห็นการปรับตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมตามข่าว หรือ ปัจจัยบวกเฉพาะที่เข้ามากระทบ อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และ นิคมอุตสาหกรรม หลัง Lumentum จากสหรัฐฯ ประกาศแผนการลงทุนในไทย ในขณะที่ภาพของต่างประเทศอย่างสหรัฐยังมีความผันผวยสูงหลังรายงานเลขภาคการจ้างงานออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดของเดือน ก.ย. และ government shutdown ที่ยังคงดำเนินต่อเนื่อง ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง KCE และ WHA

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ลูเมนตั้ม (Lumentum) จากสหรัฐฯ เตรียมขยายการลงทุนในไทย ตั้ง ศูนย์วิจัยและออกแบบชิปโฟโตนิกส์ มูลค่าสูง ใช้ใน AI ดาต้าเซ็นเตอร์ และยานยนต์อัจฉริยะ ล่าสุดทุ่ม 2,300 ล้านบาทผลิต Ultra-High-Power Chip-on-Carrier พร้อมสร้างงานวิศวกรทักษะสูง และร่วมมือมหาวิทยาลัยไทย การลงทุนนี้ช่วยยกระดับไทยจากฐานประกอบสู่การออกแบบนวัตกรรมชิปเต็มรูปแบบ และดึงซัพพลายเออร์ระดับโลกเข้ามาลงทุนเพิ่มกว่า 20 ราย มุ่งสู่เป้าหมาย “ชิปเมดอินไทยแลนด์” มองเป็นบวกกับ DELTA KCE WHA AMATA
  • รมว.คลัง เตรียมเสนอ ครม. 14 ต.ค. โครงการกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรอง หักลดหย่อนภาษี 2 เท่า วงเงินไม่เกิน 40,000 บาท เพื่อกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น พร้อมเร่งรัดใช้จ่ายงบอบรมสัมมนาหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจ 7,000–8,000 ล้านบาท ใน 4 เดือนแรกปีงบฯ 2026 กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และสนับสนุนธุรกิจโรงแรมปรับปรุง-รีโนเวทให้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่าในระยะยาว มองเป็นบวกกับ AAV BA ILM
  • จากแหล่งข่าวมติชน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินให้เป็นรูปแบบ “สร้างไป–จ่ายไป” เพราะขัดเงื่อนไขสัญญาเดิมที่กำหนดให้รัฐจ่ายเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมย้ำว่าจุดประสงค์ไม่ใช่เปิดทางให้เอกชนถอนตัว แต่ต้องหาทางออกร่วมกันภายใต้กรอบสัญญาเดิม เพื่อให้โครงการเดินหน้าต่อ ลดความเสียหาย และหลีกเลี่ยงการฟ้องร้อง แม้รัฐบาลมีเวลาจำกัดก็จะเร่งคลี่คลายปัญหานี้ให้ได้มากที่สุด มองเป็นบวกกับ STECON
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) รายงานว่า เดือนก.ย. 2568 การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐลดลง 32,000 ตำแหน่ง ถือเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง และสวนทางกับการคาดการณ์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่งโดยภาคการผลิตลดลง 4,000 ตำแหน่ง และภาคบริการลดลง 28,000 ตำแหน่ง หนุนทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • EIA รายงานว่าสัปดาห์ล่าสุด สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ 1.5 ล้านบาร์เรล ในขณะเดียวกันเวเนซุเอลาประกาศว่าการส่งออกน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 1.09 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2020 เพิ่มขึ้น 13% จากเดือนก่อนหน้าและ 39% จากปีก่อน การส่งออกส่วนใหญ่ไปยังจีน (ประมาณ 84%) หนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงเล็กน้อย 1% ในคืนที่ผ่านมา มองเป็นลบเล็กน้อยกับ PTTEP

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • KCE: ราคาพื้นฐาน 27.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ KCE จากแนวโน้มกำไรที่จะฟื้นตัวใน 2H25 ซึ่งแนวโน้มกำไร 3Q25 เป็นบวกหลังกำไรถูกกดดันจากค่าใช้จ่ายครั้งเดียวหลายรายการ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางกฎหมายและการรวมสำนักงานขายในสหราชอาณาจักรและเยอรมนี อุปสงค์ที่อ่อนลงจากความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และเงินบาทแข็งค่า การซื้อกิจการสำนักงานขายสองแห่งยังทำให้ต้องตัดสินค้าคงเหลือทางบัญชี ส่งผลให้การรับรู้รายได้ล่าช้าราว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ/ไตรมาส ใน 1H25 เราคาดว่าผลกระทบเหล่านี้จะหมดไปใน 2Q25 ซึ่งจะหนุนกำไรราว 30-40 ลบ. นอกจากนี้ยังมี upside จากปริมาณคำสั่งซื้อที่สูงขึ้นซึ่งจะช่วยเพิ่มการใช้กำลังการผลิตราว 5% และเพิ่ม GPM

  • WHA: ราคาพื้นฐาน 3.80 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกกับ WHA หลังจากที่ไทยได้รับอัตราภาษี 19% ของสหรัฐและใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน หลังบริษัทได้เปิดเผยว่ายังเห็นความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนด้านศูนย์ข้อมูล (data center) และ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์และผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่แสดงความสนใจอย่างมากในการซื้อที่ดินจำนวน 470 ไร่ และ 530 ไร่ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ตามลำดับ ในขณะเดียวกัน ประธานเจโทร กรุงเทพฯ ระบุว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเลือกไทยเป็นฐานการผลิตเนื่องจากมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐไม่ได้กระทบการลงทุนญี่ปุ่นในไทยมากนักด้วยเป้าหมายส่งออกหลักคือเอเชียและออสเตรเลีย อีกทั้ง WHA ยังคงขยายธุรกิจให้เช่าพื้นที่โลจิสติกส์อย่างต่อเนื่องตามความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในไทย หนุนการเติบโตของรายได้ในอนาคต

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพฤหัสบดี ติดตามการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรป (EU unemployment rate) เดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.3% ต่อด้วยการรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานในสหรัฐ (US Factory Orders) เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.4% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -1.3% MoM ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.25 แสนตำแหน่งเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.18 แสนตำแหน่ง
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่รายงาน การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.50 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.22 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่  4.3% ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า
- Advertisement -