สหรัฐฯ ปิดหน่วยงานแต่ Tech ไปต่อ คืนนี้อาจไม่มีการรายงานตัวเลข

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 78 จุด (+0.17%) หุ้น Technology ยังคงเป็นแรงหนุนหลักให้กับตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเมินการปิดหน่วยงานในสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.9% หลังมีคาดการณ์ว่ากลุ่ม OPEC+จะเพิ่มกำลังการผลิต

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากเข้าสู่ภาวะปิดหน่วยงานในสหรัฐฯ ซึ่งหากคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยยังไม่สามารถตกลงกันระหว่างเดโมแครตกับรีพับลิกัน ก็อาจจะต้องเกิดการเลื่อนรายงานตัวเลขสำคัญอย่างการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน แต่อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่สนใจปัจจัยดังกล่าวเท่าใดนัก หุ้นในกลุ่ม Technology เดินหน้าปรับขึ้นต่อเนื่อง NVIDIA +0.9% ทำสถิติ All time High Alphabet +0.3% แต่ TSLA -5% ขณะที่การเคลื่อนไหวของ US Bond Yield ยังคงชะลอในทิศทางลงเป็นไปตามความคาดหวังเงินเฟ้อที่น้อยลง ซึ่งอาจเกิดจากราคาน้ำมันที่ปรับลงผสานกับเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งน้อยลง CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 97% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมเดือนตุลาคม

ด้านปัจจัยในประเทศยังไม่มีอะไรใหม่ๆ นักลงทุนรอติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า (ประชุมครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่) อาจมีการนำมาตรการคนละครึ่งเข้าและสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) สำหรับผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ หากมีการลดดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมๆ กัน เชื่อว่าจะดีกับตลาดหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวข้อง อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) การเงิน (MTC) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ขณะที่เงินบาทมีทิศทางที่เริ่มอ่อนค่าต่อเนื่องทดสอบระดับ 32.46 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะดีกับกลุ่มส่งออก (ITC TU) รวมถึง อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) และท่องเที่ยว (CENTEL)

วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1280 – 1300 ตลาดหุ้นไทยอาจพักฐานบ้างเล็กน้อยจากวานนี้ปรับขึ้นมาแรง (+1.04%) แต่อย่างไรก็ตามยังมีแนวโน้มค่อยๆ ปรับขึ้นต่อหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือเลือกเป็นรายกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจะประกอบไปด้วย การเงิน (MTC) ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ท่องเที่ยว (ERW CENTEL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) อสังหา (AP SPALI)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท)

แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2H25 คาดจะขยายตัวต่อเนื่องทั้ง YoY และ HoH หนุนจากสินเชื่อขยายตัว และ ต้นทุนการเงินลดลงจากทิศทางดอกเบี้ยลดลง แม่ได้ปรับลดประมาณการกำไรลดลงจากความเลี่ยงทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่มองว่ากำไรยังมีศักยภาพการเติบโตดีต่อเนื่องราว 13% ในปี 20 25-26

CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท)

แนวโน้ม SSSG ช่วง QTD ของ 3Q25 ยังทรงตัวได้ YoY ทำให้เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 2H25 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้า Ready-to-eat และ Ready-to-drinks และ Synergy bene fits ของ CPAXT

 

- Advertisement -