GULF ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ 30,000 ล้านบาท เผยยอดจองซื้อสูงถึง 2.5 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นผู้ลงทุน พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบันเป็นจำนวนมาก โดยแสดงความจำนงในการจองหุ้นกู้ของบริษัทฯ มากถึงกว่า 73,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5 เท่าของจำนวนที่ประสงค์จะเสนอขาย (Oversubscription) สะท้อนความมั่นใจของผู้ลงทุนที่มีต่อบริษัทฯ ในด้านความแข็งแกร่งของธุรกิจ หลังจากการควบรวมกิจการกับบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH เผยพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยว่า GULF ประสบความสำเร็จจากการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 4 ชุด  รวมมูลค่าทั้งสิ้น 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 1.76% ต่อปี มูลค่า 4,900 ล้านบาท หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.00% ต่อปี มูลค่า 13,900 ล้านบาท  หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.20% ต่อปี มูลค่า 8,100 ล้านบาท และหุ้นกู้ชุดที่ 4 อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.37% ต่อปี มูลค่า 3,100 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ดังกล่าว มีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 2.05 และอายุเฉลี่ยหุ้นกู้เท่ากับ 5.7 ปี ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้เสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 1-4 ให้แก่นักลงทุนสถาบันและ/หรือนักลงทุนรายใหญ่ และเสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 2-4 ให้แก่ประชาชนทั่วไป ในระหว่างวันที่ 30 กันยายน และ 1-2 ตุลาคม 2568 และออกหุ้นกู้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2568

“การเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้นับเป็นการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งแรกภายใต้บริษัทใหม่ภายหลังการควบรวมกิจการกับ INTUCH ซึ่งทางบริษัทฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีเป็นอย่างมากจากนักลงทุน ด้วยยอดจองซื้อรวมกว่า 73,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5 เท่า ของจำนวนที่เสนอขาย  อีกทั้งหลังการควบรวมบริษัทGULF ได้รับการปรับอันดับเครดิตของหุ้นกู้และองค์กรเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ “AA-” จึงทำให้การระดมทุนในครั้งนี้มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยไปได้ประมาณ 300-400 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ภายหลังการระดมทุนดังกล่าว ทางบริษัทฯ จะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และส่วนที่เหลือจะใช้รองรับการขยายการลงทุน โดยบริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียน (Renewable) อย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ควบคู่กับการสร้างการเติบโตในธุรกิจดิจิทัล ซึ่งขับเคลื่อนด้วยธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) รวมไปถึงธุรกิจคลาวด์ เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการด้านดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย และสอดคล้องไปกับนโยบายของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนของ GULF ในอนาคตต่อไป” นางสาวยุพาพินกล่าว

ปัจจุบัน GULF ดำเนินธุรกิจในลักษณะ Holding Company  ด้วยธุรกิจที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ได้เเก่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจก๊าซ ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ ธุรกิจโทรคมนาคมและดาวเทียม และธุรกิจดิจิทัล ซึ่งล้วนเป็นธุรกิจที่สอดรับกับเมกะเทรนด์และตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต โดยความแข็งแกร่งและความมั่นคงของธุรกิจดังกล่าว สะท้อนจากอันดับเครดิตของหุ้นกู้และองค์กรที่ระดับ “AA-” แนวโน้ม “Stable” จัดอันดับโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้ที่:https://www.facebook.com/share/19uWA5ZPLE/?mibextid=wwXIfr

#GulfDevelopment   #PowerBeyondLimits   #SustainableReturns

- Advertisement -