บล.กสิกรไทย

เนื่องจาก Fed ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนกันยายน 2025 เหลือ 4.25% และคาดว่าจะปรับลงอีก 50bps ภายในสิ้นปี 2025 และคาดว่าจะลดลงอีกครั้ง ในปี 2026 ขณะที่เราคาดว่า BOT จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งในปี 2025 โดย AEONTS จะมีต้นทุนทางการเงินที่ลดลงใน 2H26FY และการปรับเพิ่มการประเมินมูลค่าหุ้นจากอัตราส่วนลดที่ลดลงจะช่วยเพิ่ม upside ให้กับ BGRIM, AEONTS และ BEM

AEONTS : แนะนำ “ซื้อ” TP 135.00 บาท
  • AEONTS กำลังเข้าสู่ FY2026 ซึ่งเป็นช่วงที่ธุรกิจกำลังฟื้นตัว โดยกำไรคาดว่าจะเติบโต +21% โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) คุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จุดสูงสุดใน 3Q23 โดย NPL และสินเชื่อชั้นที่ 2 คาดว่า จะช่วยลดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ลงอีก 2) รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยกำลังแข็งแกร่งขึ้นจากหนี้สูญรับคืนที่สูงขึ้น ขณะที่การควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัยและต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมี upside จากแผนบริหารจัดการเงินทุนที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น การซื้อหุ้นคืน
 BEM : แนะนำ “ซื้อ” TP 9.75 บาท
  • ปัจจัยหนุนระยะสั้น ได้แก่ การอนุมัติโครงการทางพิเศษ 2 ชั้นใน 4Q25 ซึ่งอาจทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3–1.5 บาท/หุ้น ผ่านการขยายสัมปทานโครงการ FES และ SES sector A,B และโครงการเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2026 แม้จะเข้าสู่รอบ CAPEX ปี 2025–2029 แต่ FCFF คาดจะเริ่มตั้งแต่ปี 2030 เป็นต้นไป
BGRIM : แนะนำ “ซื้อ” TP 15.00 บาท
  • Upside มาจากวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของประเทศไทย ซึ่งทุกๆ 10bps จะเพิ่มมูลค่าหุ้นประมาณ 5% และจากต้นทุน LNG ที่ลดลงท่ามกลางอุปทานทั่วโลกที่พุ่งสูงขึ้นถึง 215 ล้านตันจนถึงปี 2030 ขณะที่ความเสี่ยงจากการแทรกแซงอัตราค่าไฟฟ้ามีจำกัด ขณะที่ศูนย์ข้อมูล (data center) ขนาด 96MW นำเสนอ S-curve ใหม่ โดยทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 1.5-2.5 บาท/หุ้น เราคาดว่าการปรับอัตราค่าไฟฟ้าของฟาร์มโซลาร์เซลล์ในเวียดนามจะได้ผลสรุปใน 4Q25 ซึ่งอาจมีผลกระทบน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

- Advertisement -