เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 9.07 จุด (+0.70%) ปิดที่ระดับ 1,314 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.3 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 188 บริษัท, จำนวนหุ้นปรับลง 219 บริษัท) ดัชนีปรับขึ้นจากกระแสเก็งกำไรหุ้นในห่วงโซ่อุปทานของ AI และ Data Center รับคาดการณ์ดีมานด์ AI เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ นำขึ้นโดยกลุ่ม กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ (DELTA, CCET, KCE), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC, EGCO, BPP), กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) และกลุ่มนิคมฯ (AMATA, WHA) ส่วน Sector ที่ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มสายการบิน (THAI), กลุ่มธนาคาร (KTB, KBANK, BBL) และ วัสดุก่อสร้าง (SCC)
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
- DELTA (+3.13%), CCET (+4.27%), KCE (+4%) มีจิตวิทยาบวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 32.6 บาท อ่อนค่ามากสุดในรอบ 1 เดือนครึ่ง ผสานจิตวิทยาบวกจากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่ม Tech ใน สหรัฐ และ ไต้หวัน รับข่าว เจนเซ่น หวง CEO ของ Nvidia ให้สัมภาษณ์ ความต้องการ AI และ กระแสลงทุนด้าน Data Center ของโลกจะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ ในขณะที่ DELTA Taiwan รายงานยอดขายเดือน ก.ย. พุ่งแตะระดับ 5.7 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน+ 19.2%m-m และ 53.8%y-y
- GULF (+3.43%), BCPG (+6.11%), BGRIM (+9.15%), BPP (+7.53%), EGCO (+8.84%) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า Top Pick ของเราเช้านี้ปรับขึ้นเด่นนำตลาด รับข่าว เจนเซ่น หวง CEO ของ Nvidia ให้สัมภาษณ์คล้ายกับกลุ่มอิเล็กฯ โดย เจนเซ่น หวง กล่าวว่ากระแสลงทุนด้าน AI และ Data Center จะทำให้ดีมานด์ทางด้านไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมหาศาล โดยเฉพาะในสหรัฐจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อ support AI และ Data Center โดยตรงทั้งจากก๊าซธรรมชาติหรือจากพลังงานนิวเคลียร์ ผสานราคาก๊าซธรรมชาติเมื่อคืนร่วงแรงราว 4% เป็นอีกหนึ่งจิตวิทยาบวกหนุนหุ้นโรงไฟฟ้าทั้งหมด
- SCC (-2.29%) นักวิเคราะห์ของเราออกรายงาน preview งบ 3Q25 ดูน่าผิดหวังคาดมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 367 ล้านบาท เทียบกับ 2Q25 มีกำไรสุทธิ 17,337 ล้านบาท และมีกำไรปกติ 2,936 ล้านบาท และ 3Q24 มีกำไรสุทธิ 721 ล้านบาท ธุรกิจปิโตรฯ ไม่ฟื้น การแข่งขันสูง Spread ตกต่ำไม่คุ้มทุน เปิดโรงงาน LSP ในเวียดนามผลิตได้แต่ต้องขายขาดทุน ระยะสั้นอาจเห็นราคาหุ้นถอยสร้างฐานโซน 210 บาท
- THAI (-10.85%) มีจิตวิทยาลบ กังวลถูกแทรกแซง หลังมีกระแสข่าวเรียกประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี (Annual General Meeting หรือ AGM) ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติเนื่องจากโดยทั่วไปการประชุม AGM จะเกิดขึ้นเพียง 1 ครั้งต่อปี (ภายใน 4 เดือนหลังสิ้นรอบบัญชี) เพื่อรับรองงบการเงิน, พิจารณาจ่ายปันผล และแต่งตั้งกรรมการแทนผู้ครบวาระ ซึ่งในปีนี้ THAI จัดประชุม AGM ไปแล้วเมื่อเดือน มี.ค. การจัดประชุมเป็นครั้งที่ 2 จึงสร้างความกังวลให้กับตลาดถึงภาพลักษณ์และความโปร่งใสในการบริหารงาน อย่างไรก็ตามเป็นเพียงกระแสข่าว นักลงทุนยังต้องติดตามในข้อเท็จจริงดังกล่าวเพิ่มเติม
- KTB (-0.8%), KBANK (-0.6%), BBL (-0.66%) หุ้นกลุ่มธนาคารถูก Take Profit จากที่ปรับขึ้นเมื่อวานรับข่าว กนง. คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มดอกเบี้ยไทยยังเป็นขาลง อิงเป้าหมายหลัก ของ ธปท. คือ รักษา Policy Space และรอจังหวะใช้อย่างเหมาะสม โดยเน้นจุดยืนต้องใช้นโยบายผ่อนคลายอย่างน้อยในอีก 1 ปีข้างหน้า สะท้อน “Dovish Tone”