KS Daily View 14.10.2025 >>> ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจีน 100% สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ตึงเครียดอีกครั้ง/ คาด SET sideway down กรอบ SET วันนี้ 1,270–1,290 จุด แนะนำ BH และ AMATA

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดดัชนีตลาด SET Index ในสัปดาห์นี้มีโอกาสปรับตัวลดลงค่อนข้างสูง อยู่บริเวณ 1250-1280 จุด โดยหลักมาจากปัจจัยภายนอกประเทศที่สภาวะความเสี่ยงสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับขึ้นมาปะทุอีกครั้งภายหลังเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม จีนมีประกาศควบคุมการส่งออก Rare earths เพิ่มเติมอีก 5 ชนิดและเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษกับเรือสหรัฐฯ ที่เทียบท่าในจีน โดยส่งผลกระทบหลักต่ออุตสาหกรรม Semiconductor และการพัฒนา Chip ต่างๆ รวมไปถึงอุตสาหกรรม EV และ Defense เช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน ประเทศจีนเป็นผู้ผลิต rare earth ประมาณ 90% ของโลก และสหรัฐฯ นำเข้ามากกว่า 70% ของ rare earth จากประเทศจีน  ส่งผลทำให้ประธานาธิปดีสหรัฐฯ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีตอบโต้เพิ่มเติมอีก 100% ทุกสินค้าจาก อัตรา 30% เดิมที่ได้รับการผ่อนปรนจากข้อตกลงทางการค้าล่าสุดที่ จีนจะลด ภาษีreciprocal ให้ US เหลือ 10% และ US จะลดภาษี reciprocal tariffs ให้เหลือ 30% ในช่วงวันที่ 12 สิงหาคม เป็นเวลา 90 วันซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 10 พฤศจิกายน นี้ โดยภาษีใหม่จะเริ่มใช้วันที่ 1 พ.ย นี้ทันที

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1286.98 จุด ปรับตัวลดลง -0.58% จากสัปดาห์ที่ผ่านหลังกลุ่มขนส่ง,กลุ่มวัสดุก่อสร้าง, และกลุ่มกระดาษปรับตัวลดลง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว sideway down อยู่ในกรอบ 1,270–1,290 จุด จากภาพเชิงลบในต่างประเทศ หลังสภาวะความเสี่ยงสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับขึ้นมาตึงเครียดอีกครั้งหลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 100% ตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ แนะนำ BH และ AMATA

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สหรัฐฯ ประกาศปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 100% พร้อมควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ ตั้งแต่ 1 พ.ย.นี้ ตอบโต้จีนที่ขยายการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ในขณะเดียวกันจีนจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่าเรือจากเรือที่เป็นของ สัญชาติ หรือบริหารโดยสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. ซึ่งการเก็บค่าธรรมเนียมของจีนจะครอบคลุมเรือที่มีบริษัทสหรัฐฯ ถือหุ้น 25% ขึ้นไป ทำให้สายเรือใหญ่หลายรายได้รับผลกระทบ รวมถึง Maersk, APL, Zim และ Seaspan โดยค่าธรรมเนียมจะปรับขึ้นเป็นขั้นบันไดถึงปี 2028 มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ PSL และ RCL
  1. ในขณะเดียวกัน กระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวันกล่าวในแถลงการณ์เกี่ยวกับกฎใหม่ของจีนว่าธาตุหายากที่ครอบคลุมภายใต้การห้ามที่ขยายออกไปนั้นแตกต่างจากธาตุหายากที่จำเป็นในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน ดังนั้นคาดว่าจะไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการผลิตชิปในขณะนี้ มองว่าผลกระทบอาจจำกัดต่อ กลุ่ม electronics ของไทย
  1. ภาคของการส่งออกเรือ มีประมาณ 700 คนที่ท่าเรือโรตเทอร์ดัมจะพักการนัดหยุดงานอย่างน้อย 5 วันตั้งแต่เช้าวันจันทร์ หลังจากสหภาพแรงงานและนายจ้างตกลงเริ่มการเจรจาเรื่องสัญญาแรงงานใหม่ การนัดหยุดงานเริ่มเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้เกิดเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก และไม่มีเรือลงหรือขึ้นตู้คอนเทนเนอร์ตั้งแต่เริ่มหยุดงาน หากการเจรจาไม่สำเร็จ การนัดหยุดงานสามารถกลับมาอีกครั้ง หากปัญหายืดเยื้ออาจหนุนค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น
  1. รัสเซียระงับการลดเงินอุดหนุน “fuel damper” ให้กับโรงกลั่นน้ำมันจนถึงเดือนพฤษภาคม เพื่อกระตุ้นให้โรงกลั่นขายน้ำมันในตลาดภายในประเทศแทนการส่งออกในราคาสูง ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ถึง 1 พ.ค. นอกจากนี้ การผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงฤดูหนาวโดยผสมน้ำมันชนิดอื่นกับน้ำมันเครื่องบินนอกโรงกลั่นยังได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตด้วย มองเป็นบวกเล็กน้อยในระยะสั้นต่อกลุ่มโรงกลั่นอย่าง TOP SPRC BCP BSRC จาก supply ที่อาจถูกจำกัดในระยะสั้น
  1. การนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ของจีนในเดือนกันยายนพุ่งสูงสุดของปี โดยแร่เหล็กนำเข้า 116.326 ล้านตัน ถ่านหิน 46 ล้านตัน และทองแดงเพิ่มขึ้น 13% เนื่องจากผู้ซื้อเร่งสต็อกสินค้าและใช้โลหะแปรรูปชดเชยอุปทานแร่ทองแดงที่ลดลง ส่วนถั่วเหลืองปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ PSL

Daily pick

BH: ราคาพื้นฐาน 186.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BH จากแนวโน้มของการฟื้นตัวของรายได้ คาดว่าจะเติบโต 3–5% ใน 3Q25 ฟื้นตัวจาก -4% ใน 2Q25 จากการเข้าสู่ช่วง high season ของกลุ่มโรงพยาบาลและฐานต่ำของรายได้ผู้ป่วยคูเวตในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามผู้บริหารแสดงความเชื่อมั่นของการฟื้นตัวของรายได้จากคนไข้ตะวันออกกลางในเดือน ก.ค. ประกอบกับการควบคุมต้นทุนที่ทำได้ดี ที่จะหนุนให้กำไรใน 3Q25 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

AMATA: ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AMATA จากกรณีที่ความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับมาปะทุอีกครั้งภายหลังจีนมีการควบคุมการส่งออก rare earth และสหรัฐฯมีการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีเพิ่มเติมอีก 100% ส่งผลให้ธุรกิจการผลิตและส่งออกในจีนยังคงมีความเสี่ยงอย่างมากรวมถึงความไม่แน่นอนต่อ Geopolitical risk ซึ่งเราประเมินว่าภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะยังคงเป็นโอกาสของการย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศจีนและประเทศไทยมีอัตราภาษี US reciprocal tariffs ที่ 19% ใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นเวียดนามหรือมาเลเซีย เราเชื่อว่า AMATA จะได้รับ sentiment เชิงบวกจากประเด็นนี้ นอกจากนี้ AMATA ยังคงมั่นใจสำหรับ demand ที่ยังแข็งแกร่งของลูกค้าในการย้ายฐานการผลิตโดยเฉพาะในอุตสาหกรรม semiconductor, Automotive และ electronics รวมไปถึง Data center เป็นต้น ประกอบกับ Backlog ที่แข็งแกร่งราว 25 พันล้านบาทและเงินมัดจำราว 11 พันล้านบาทของ AMATA สะท้อนถึงความต้องการที่ยังคงมีสูง ด้วยระดับ Fwd PE’25-26 ที่ระดับ 5-6.x คาดว่ามีโอกาส outperform ได้ในช่วงนี้

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม ตัวเลขส่งออกของจีน (China Export)เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +6.5% YoY เร่งตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +4.4% YoY และตัวเลขนำเข้าของจีน (China Import)  เดือน ก.ย.ตลาดคาดการณ์ที่ +1.8%YoY เร่งตัวจากเดือนที่ผ่านมาที่ +1.3% YoY

วันอังคาร ติดตาม ถ้อยคำแถลงการณ์ของประธานเฟดอย่าง Jerome Powell ในการอภิปรายเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจและนโยบายการเงินในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics) ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย

วันพุธ ติดตามรายงานอัตราเงินเฟื้อของจีน (China CPI)เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.20% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -0.40% YoY ต่อด้วยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของโซนยุโรป (EU Industrial Production)เดือน ส.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.2% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.8% YoY

วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.6% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า  และ การรายงานดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail sales) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.4% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.6%MoM ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.30 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งสุดท้าย (EU CPI) เดือน ก.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.2% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าและตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (EU Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +2.3% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายด้วย การรายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (US Housing Starts) ของสหรัฐ เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.320 ล้านหลัง เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.307 ล้านหลัง

- Advertisement -