บล.กสิกรไทย: 

คาดการณ์ทิศทาง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ใน 2H68

  • แนวโน้มเชิงบวกใน 2H68 จากการเร่งการลงทุนทั่วโลก สินค้าคงคลังที่ปรับลดลงสู่ระดับปกติ อุปสงค์ในการเติมสต็อก และแรงกดดันทางการค้าที่ผ่อนคลายลง
  • FX จะยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตใน 3Q68 แต่เราคาดว่าจะอ่อนตัวลงใน 4Q68 คำสั่งซื้อใหม่และค่าใช้จ่ายพิเศษที่ลดลงจะเป็นปัจจัยกระตุ้นการเติบโต
  • คงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มธุรกิจ เราปรับเพิ่ม TP ของ DELTA เป็น 145 บาท และปรับเพิ่มคำแนะนำ สำหรับ KCE จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ”
Highlights
  • เริ่มต้นปีผันผวน แต่แนวโน้มสดใสใน 2H25 ราคาหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ใน 1Q25 อ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากยอดขายที่ลดลง แรงกดดันด้านมาร์จิ้นจากค่าเงินบาทแข็ง และความกังวลเรื่องภาษีนำเข้าที่สูง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนชะลอตัว อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นฟื้นตัวใน 2Q25 จากความคาดหวังการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อในช่วงครึ่งปีหลัง มองไปยัง 2H25 เราคาดว่ารายได้และกำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่มั่นคงขึ้น รวมถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่สำคัญ โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูลและธุรกิจ AI โดย guidance จากบริษัทต่างๆทั้งในและต่างประเทศ สะท้อนภาพที่เป็นบวกมากขึ้น
  • แนวโน้มเทคโนโลยีโลกเติบโตแข็งแกร่ง สภาพแวดล้อมเทคโนโลยีโลกยังคงเป็นบวก โดยการลงทุนของ hyperscaler เติบโตกว่า 60% YoY ใน 2Q25 ขับเคลื่อนโดยการลงทุนด้าน AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ผู้เล่นหลักอย่าง Amazon, Microsoft และ Google ปรับเพิ่มแผนการลงทุนปี 2025 สะท้อนถึงความต้องการที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยผลักดันมาจาก “One Big Beautiful Bill” (OBBB) ที่ให้ผลประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุน และการเปลี่ยนจาก AI training ไปยัง inference ส่วนตลาดเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะกลุ่ม logic และ memory เติบโตดีตามการลงทุนใน AI ขณะที่อิเล็กทรอนิกส์ในยานยนต์และอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวขึ้น ระดับสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทานปรับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ลดลงจากจุดสูงสุดในปี 2023

ตัวขับเคลื่อนกำไร 2H25 ปัจจัยหลักที่จะหนุนการเติบโตกำไรใน 2H25 ได้แก่

1) การลดความเข้มงวดของภาษีการค้าสำหรับผู้ส่งออกเอเชีย รวมถึงประเทศไทย และการลดภาษียานยนต์และชิ้นส่วนยุโรป

2) การอ่อนค่าของเงินบาทที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 4Q25 ซึ่งช่วยขยายมาร์จิ้นของหุ้นในกลุ่ม

3) การไม่มีรายการค่าใช้จ่ายพิเศษเหมือน 1H25 ทำให้กำไรไม่ถูกกดดันเหมือนช่วงที่ผ่านมา

4) คำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่ย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนปริมาณการผลิตและยอดขายให้กลับมาเติบโตอย่างต่อเนื่อง

DELTA vs. บริษัทอื่น มีความแตกต่างชัดเจนระหว่าง DELTA และบริษัทอื่นในกลุ่มทั้งด้านศักยภาพการเติบโต ลูกค้าหลัก และโครงสร้างมาร์จิ้น DELTA มีแนวโน้มกำไรเพิ่มขึ้นระยะยาวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะปี 2026-27 จากการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ AI การขยายผลิตภัณฑ์ และสินค้าใหม่ ขณะที่ HANA, KCE และ SVI พึ่งพาแนวโน้มเศรษฐกิจและการบริโภคพื้นฐานมากกว่า ทำให้มีความอ่อนไหวต่อความผันผวนของเศรษฐกิจและค่าเงินมากกว่า

มุมมอง KS

  • คงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่ม เราคงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากการเติบโตในปี 2569 ยังดูไม่ชัดเจนนัก จากความไม่แน่นอนหลายประการในระดับมหภาค เราปรับราคาเป้าหมายของ DELTA ขึ้นเป็น 145 บาท และปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ KCE เป็น “ซื้อ” โดยคงราคาเป้าหมายไว้ที่ 27 บาท

- Advertisement -