แมสเทค ลิ้งค์ (MASTEC) เคาะราคาไอพีโอ 1.45 บาทต่อหุ้น ระดมทุน 114.55 ล้านบาท เตรียมขายหุ้น 79 ล้านหุ้น 17 และ 20-21 ตุลาคม 2568 คาดเข้าเทรดใน SET เร็วๆ นี้

บมจ.แมสเทค ลิ้งค์ หรือ MASTEC แต่งตั้งบล.ฟิลลิปเป็นลีดอันเดอร์ไรท์เตอร์ พร้อมโคอันเดอร์ไรท์เตอร์อีก 3 แห่ง ประกอบด้วย บล. โกลเบล็ก, บล.บียอนด์, และบล. ไอร่า ประกาศราคาไอพีโอ 1.45 บาท กำหนดให้จองซื้อวันที่ 17 และ 20-21 ตุลาคม 2568 เสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน79 ล้านหุ้น พร้อมเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เร็วๆ นี้ คาดนักลงทุนให้การต้อนรับอบอุ่น มั่นใจจะเป็นทั้งหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock หลังระดมทุนจำนวน 114.55 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม การ Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย ขยายช่องทางจัดจำหน่ายครอบคลุมทั่วไทย และเป็นเงินทุนหมุนเวียน

ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า MASTEC ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก หรือ IPO โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย และมีบริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้นMASTEC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในเร็วๆนี้

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินกล่าวว่า MASTEC มีศักยภาพการเติบโตที่ดีจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 25 ปี ในธุรกิจนำเข้าและจัดหาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อจำหน่าย และการให้บริการโซลูชั่นที่ครอบคลุม ตั้งแต่ ผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ความปลอดภัย และผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ซัพพลายเออร์ชั้นนำรวม 30 ราย โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว (Exclusive Distributor) จำนวน 6 แบรนด์ ได้แก่ FRESE, FIVALCO, CHANGDER,FIREGUARD, ECO-WATER/ENVIROSWIM และ BOCA อีกทั้งยังเป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วไป(Non-Exclusive Distributor) รวม 24 แบรนด์ เช่น VIKING, REFLEX, NIHON SPINDLE, JOHNSON-CONTROLS และ TDT เป็นต้น และยังจัดหาผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากซัพพลายเออร์รายอื่นอีกมากกว่า 150 แบรนด์ นอกจากนี้บริษัทมีการว่าจ้างผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ ได้แก่ VALOR ผลิตภัณฑ์วาล์วที่ใช้ในระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และ ZERO FIRE ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตู้ดับเพลิง

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า MASTEC จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 79 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 26.33 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO กำหนดให้จองซื้อวันที่ 17 และ 20-21 ตุลาคม 2568 พร้อมเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เร็วๆ นี้ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อรองรับแผนรุกธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมสำหรับตลาดอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม และเป็นเงินทุนสำหรับรองรับธุรกิจใน Synergy Products ของกลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัย รวมถึงขยายช่องทางการตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนกิจการ

ทั้งนี้การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 1.45 บาทต่อหุ้น ซึ่งพิจารณาจากอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) เท่ากับ 9.06 เท่า โดยคำนวณจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม  2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ซึ่งมีกำไรสุทธิเท่ากับ 46.75  ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ ซึ่งเท่ากับ 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จะได้กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.16 บาท หากคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ก่อนออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนสำหรับการไอพีโอ เท่ากับ 0.21 บาทต่อหุ้น (คำนวณจากจำนวนหุ้น 221 ล้านหุ้น)

นายดุษฎี มีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมสเทค ลิ้งค์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTEC เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเป็นผู้นำเสนอโซลูชั่นเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมของงานระบบอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า โดยมีทีมวิศวกรและทีมผู้เชี่ยวชาญสำหรับการให้บริการตั้งแต่การทำความเข้าใจแบบวิศวกรรม ออกแบบระบบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ จำหน่าย ศึกษา ตรวจสอบ ให้คำปรึกษา เพื่อนำเสนอโซลูชั่นที่เหมาะสมทั้งด้านเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ ข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องงบประมาณโดยรวมของลูกค้า ครอบคลุมถึงให้บริการติดตั้ง ตรวจสอบ ซ่อมแซมและบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ด้านวิศวกรรมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมี 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย 1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล  2. กลุ่มผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย และ 3. กลุ่มผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้บริษัทฯ มีแผนนำเม็ดเงินระดมทุนจำนวน 114.55 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจที่มีโอกาสในการเติบโตสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการประหยัดพลังงานสำหรับระบบปรับอากาศ ในดาต้าเซ็นเตอร์ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า  อาคารผู้โดยสารสนามบิน รถไฟฟ้ามวลชน เป็นต้น เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานและสารเคมีรวมถึงลดค่าใช้จ่ายการซ่อมบำรุงรักษาและช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น, อุปกรณ์ประกอบระบบโซลาร์เซลล์ ประกอบไปด้วย แผ่น Solar Cell, Inverter, Mounting Equipment, PV Cable และ Battery เพื่อเป็นพลังงานทางเลือกปลอดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดค่าไฟสำหรับครัวเรือน อาคารพาณิชย์และโรงงานอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ประกอบระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ที่มีมาตรฐานสูงพร้อมระบบ Web Application เพื่อการบริหารจัดการให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดและรายงานสถานะการใช้งาน Real Time บน Platform Online

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานช่วงปี 2565-67 มีรายได้รวม 936.66 ล้านบาท 984.46 ล้านบาท และ 943.22 ล้านบาทตามลำดับ โดยโครงสร้างรายได้ ปี 2567 กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาลมีสัดส่วนรายได้ 56.73%ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยมีสัดส่วนรายได้ 34.32% และผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มีสัดส่วนรายได้ 8.95% ของรายได้จากการขายและบริการ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแบรนด์ของเราเอง (Own Brand) ได้แก่ VALORในกลุ่มผลิตภัณฑ์วาวล์ที่ใช้ในระบบปรับอากาศและสุขาภิบาล และอุปกรณ์ตู้ดับเพลิง ZERO Fire ที่เริ่มสร้างการรับรู้มาตั้งแต่ปี 2550 ทำให้สินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาแบรนด์สินค้าของบริษัทฯ (Own Brand) ทำสัดส่วนรายได้ดีขึ้น 21.30%, 20.55% และเพิ่มเป็น 23.61% ตามลำดับ

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการรวม 395.53 ล้านบาท โครงสร้างรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ระบบปรับอากาศและสุขาภิบาลมีสัดส่วนรายได้ 64.32% ผลิตภัณฑ์การป้องกันอัคคีภัยและผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยมีสัดส่วนรายได้ 30.48% และผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม มีสัดส่วนรายได้ 5.19% ของรายได้จากการขายและบริการ

- Advertisement -