KS Daily View 20.10.2025 >>> จับตาผลเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน หลังมาตรการปรับเพิ่มภาษีเลื่อนมา 1 พ.ย. กรอบ SET วันนี้ 1,265–1,285 จุด แนะนำ KTB และ SCC

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1270-1310 จุด โดยยังคงเห็นแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามากดดัชนีหรือเผชิญข่าวลบเมื่อเหนือระดับ 1,300 จุดขึ้นไป ขณะที่ยังมีแรงซื้อช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีหลุดแนวรับ 1,270 จุด ซึ่งเลี้ยงไว้ไม่ให้เสียงทรง อย่างไรก็ดี เราเห็นแนวโน้มนักลงทุนปรับพอร์ตลดความเสี่ยง หลังเห็นเม็ดเงินเข้าซื้อกลุ่มที่มี stable operation และ high yield เช่น โรงพยาบาล, สื่อสาร, โรงไฟฟ้า, และธนาคาร เราประเมินบรรยากาศการลงทุนยังคงผันผวนโดยในสัปดาห์นี้ แต่อาจเริ่มเห็นพัฒนาการเชิงบวก หลังช่วงปลายสัปดาห์ก่อน ปธน. สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และรมต. คลัง สก็อต เบสเซนต์ ออกมาให้ข่าวว่าการพูดคุยกับทางจีนในเบื้องต้นเป็นไปด้วยดี โดยรมต. คลัง สก็อต เบสเซนต์ จะได้เจรจาพูดคุยกับทางรองนายกฯ ของจีน เหอ ลี่เฟิง เพิ่มเติมอีกในสัปดาห์นี้ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันความขัดแย้งและปูทางไปสู่การเจรจาระหว่างปธน. สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และ ปธน. สี จิ้นผิง ในช่วงปลายเดือนนี้ก่อนครบกำหนดเส้นตายสำหรับมาตรการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าที่ถูกเลื่อนมาเป็นวันที่ 1 พ.ย.

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1274.61 จุด ปรับตัวลดลง -0.96% จากสัปดาห์ที่ผ่านหลังกลุ่มสื่อ, กลุ่มปิโตรเคมี, และกลุ่มกระดาษปรับตัวลดลง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,265–1,285 จุด หลังตลาดได้รับรู้ปัจจัยบวกในประเทศไปมากแล้ว ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศยังคงจับรอดูผลการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนหลังมาตรการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าที่ถูกเลื่อนมาเป็นวันที่ 1 พ.ย.แนะนำ KTB และ SCC

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

ติดตามพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีกำหนดจัดการประชุมพลีเนียมระหว่างวันที่ 20-23 ตุลาคม 2025 เพื่อพิจารณาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแบบห้าปีครั้งที่ 15 (ปี 2026-2030) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์สำคัญที่กำหนดเป้าหมาย การลงทุน และนโยบายของประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า ครอบคลุมหัวข้อสำคัญโดยเฉพาะ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรการการควบคุมอุตสาหกรรมที่over supply ที่ส่งผลต่อหุ้นกลุ่ม Global play เช่น IVL PTTGC SCGP SCC

BOI เดินหน้ามาตรการ “ควิก บิ๊ก วิน” ตั้งทีมพิเศษเร่งรัดการลงทุน กว่า 70 โครงการมูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านบาท ที่ค้างท่อจากปี 2023–2024 พร้อมตั้ง คณะอนุกรรมการ 3 ด้าน แก้ปัญหาเรื่องไฟฟ้า พื้นที่ลงทุน และวีซ่าทำงาน เพื่อปลดล็อกอุปสรรคให้นักลงทุนเดินหน้าได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ บีโอไอยังเตรียมเปิดระบบ “Thailand FastPass” เพื่อเป็นช่องทางเร่งรัดอนุมัติ-อนุญาตโครงการสำคัญแบบกำหนดกรอบเวลา (SLA) เพื่อช่วยให้นักลงทุนเริ่มดำเนินธุรกิจได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มองเป็นบวกกับ WHA AMATA BGRIM GPSC

IMO ของสหประชาชาติ มีมติเลื่อนการตัดสินใจเรื่อง “การเก็บภาษีคาร์บอนต่อการขนส่งทางเรือทั่วโลก” ออกไปอีกหนึ่งปี หลังไม่สามารถบรรลุฉันทามติได้ภายใต้แรงกดดันจากสหรัฐฯ โดยระบุว่าสหรัฐฯ จะไม่ยอมรับ “ภาษีสีเขียวระดับโลก” นี้ การเลื่อนดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนให้กับอุตสาหกรรมเดินเรือซึ่งคิดเป็น 3% ของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก ซึ่งมาตรการดั้งกล่าวส่งผลกระทบกับ supply เรือเก่าที่มีอัตราการใช้พลังงานที่สูงและอัตราการเดินเรือ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับ PSL และ RCL

สหรัฐฯ และยุโรปกำลังกดดันประเทศในเอเชีย โดยเฉพาะอินเดีย จีน และญี่ปุ่น ให้ลดการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย ซึ่งอาจจำกัดปริมาณน้ำมันที่อินเดียนำเข้าได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม และทำให้จีนได้ซื้อน้ำมันในราคาถูกลง ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังรัสเซียเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ เนื่องจากโรงกลั่นภายในประเทศเสียหายจากการโจมตีของยูเครน มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับกลุ่มโรงกลั่น TOP SRRC BCP จาก GRM ที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรกกดดันของ feed cost ที่ต่ำจาก Russia ที่น้อยลง

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อนุมัติ ขยายโครงการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนรถยนต์ ที่ใช้ในยานยนต์ผลิตในสหรัฐฯ พร้อมกำหนด ภาษี 25% สำหรับรถบรรทุกขนาดกลาง–หนักและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง เริ่ม 1 พ.ย.นี้ โดยให้ ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปได้รับการยกเว้น ตามข้อตกลงการค้าที่ทำไว้ก่อนหน้า นอกจากนี้ยังเรียกเก็บ ภาษี 10% สำหรับรถโดยสารนำเข้า จากเดิม 2% มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยต่อ AH SAT STANLY

Daily pick

KTB: ราคาพื้นฐาน 26.25 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ KTB และกลุ่มธนาคารจากแนวโน้มของการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่มีจำกัดในช่วงเวลาที่เหลือโดยประเมิน terminal rate ในการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1% นอกจากนี้ในสัปดาห์หน้าจะเป็นช่วงที่ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารสำหรับงบ 3Q25 เราประเมิน กำไรของKTB มีโอกาสดีกว่าคาดจากการบันทึกผลกำไรหลังจาก บริษัท การบินไทย กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นอีกครั้งส่งผลให้มีการกลับรายการตั้งสำรองของการบินไทยที่เคยตั้งไว้ในช่วงก่อนเข้าฟื้นฟู้กิจการกลับราว 1.5 พันล้านบาท นอกจากนี้เราประเมิณ KTB มีโอกาสในการทำ capital management เพิ่มไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นคืนหรือเพิ่ม payout ratio เองก็ตาม

SCC: ราคาพื้นฐาน 246.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SCC ในระยะยาว โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจ SCGC ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการปิดกำลังการผลิตโอเลฟินทั่วโลกประมาณ 15 ล้านตันในช่วงปี 2026–2028 ทั้งจากการทยอยปิดโรงงานเก่าในจีน (5.2 ล้านตัน หรือราว 13% ของกำลังผลิตประเทศ) และการปิด/ลดกำลังผลิตของผู้ผลิตต้นทุนสูงในยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 10 ล้านตัน ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 85% ใกล้เคียง mid-cycle ในปี 2022 และดันส่วนต่างราคา PE/PP ขึ้นสู่ 400–450 ดอลลาร์/ตัน จากปัจจุบันที่ระดับต้นทุน 340–350 ดอลลาร์/ตัน หากเป็นไปตามนี้PBV ของ SCC มีโอกาส re-rate จาก 0.8x สู่ 1.0–1.2x หรือราคาเหมาะสม 300–350 บาท/หุ้น ธุรกิจปูนซีเมนต์ มีแนวโน้มได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนภาครัฐ รวมถึงการปรับขึ้นราคาขายที่ทำไปแล้วใน 1Q25 เสริมแรงหนุนกำไร ขณะเดียวกัน SCC ยังเดินหน้าลดหนี้ด้วยปรับลด CAPEX ปี 2025 เหลือ 3 หมื่นล้านบาทจากค่าเฉลี่ย 5 หมื่นล้านบาท ในอดีตที่ผ่านมา

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนอย่าง ตัวเลข GDP ใน 3Q24 ตลาดคาดการณ์ที่ 4.7% YoY ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 5.2% YoY ต่อด้วย ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial production) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 5.0% YoY เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.2% YoY และ ดัชนียอดค้าปลีก (Retail sales) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.0% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.4% YoY

วันอังคาร ติดตาม เฟดวอลเลอร์ กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานการประชุมนวัตกรรมการชำระเงินของคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และ การให้สัมภาษณ์ของทางประธาน ECB Christine Lagarde ในงานประชุมของธนาคาร Norges ที่เมืองออสโล

วันพุธ ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธาน ECB Christine Lagarde ที่จะมีขึ้นในงาน Finance and Futures Summit ที่เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ต่อด้วยรายงานคลังสินค้าน้ำมันดิบ (US Crude Oil Inventories) จากองค์กรข้อมูลด้านพลังงาน เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.52 ล้านบาร์เรล

วันพฤหัสบดี ติดตามรายงานยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.06 ล้านหลังเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.00 ล้านหลัง ปิดท้ายด้วยจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดการณ์ที่ 2.26 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.1% YoY เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.9% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.1% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

- Advertisement -