บล.กสิกรไทย:
KKP โหมดฟื้นตัว
ผลประกอบการไตรมาส 3/2568 แข็งแกร่งกว่าคาด
- KKP รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/68 ที่ 1.67 พันลบ. (+18% QoQ, +28% YoY) ผลประกอบการออกมาดีกว่าประมาณการของเราและตลาด 39% และ 33% ตามลำดับ จากคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งและกำไรจากการลงทุนในตราสาร FVTPL ที่สูงขึ้น
ธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง
- เราคาดว่าผลขาดทุนจากการขายรถยึดคืนและ ECL ที่ลดลงจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนกำไรในไตรมาสต่อ ๆ ไป เราเห็นว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) จะยังคงลดลงต่อเนื่องในไตรมาส 3/2568 จาก 1) สต็อกรถยึดคืนลดลงเหลือต่ำกว่า 2,000 คัน ต่ำสุดในรอบ 3 ปี 2) จำนวนหน่วยขายและการยึดหลักประกันภายใต้สินเชื่อเช่าซื้อลดลง และคุณภาพสินเชื่อเช่าซื้อระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ดีขึ้น ยอดสินเชื่อที่ปรับโครงสร้างภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” อยู่ที่ 12.7 พันลบ. คิดเป็น 3.7% ของสินเชื่อรวมในไตรมาส 3/2568 และมีผลการดำเนินงานที่ดีในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา พร้อมการตั้งสำรองเพิ่มเติมเพื่อรองรับแนวโน้มการถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปี 2569
แรงกดดันต่อ NIM เริ่มคลี่คลาย
- ปัจจัยหนึ่งที่กดดันความสามารถในการทำกำไรของ KKP คือ อัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ลดลงต่อเนื่องในช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมา เราคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะเริ่มคลี่คลายตั้งแต่ไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป เนื่องจากผู้บริหารคาดว่าต้นทุนเงินทุนจะยังคงลดลงอีก 10-15bps ในไตรมาส 4/2568 ขณะที่อัตราผลตอบแทนสินเชื่อน่าจะทรงตัวใกล้เคียงกับระดับในไตรมาส 3/2568
มุมมอง KS : เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” และปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 74.5 บาท จาก 63.25 บาท เนื่องจาก 1) ปรับเพิ่มเป้าหมาย PBV เป็น 0.93 เท่า จาก 0.79 เท่า ตามการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ระยะยาวเป็น 9.8% จาก 9.0% และ 2) ปรับปีฐานราคาเป้าหมายไปเป็นสิ้นปี 2569 จากกลางปี 2569 KKP ยังคงเป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร และเราเชื่อว่ากลยุทธ์เฉพาะของ KKP ในการขยายธุรกิจรายได้ค่าธรรมเนียมจะเป็นปัจจัยหนุนให้ PBV ของบริษัทฯ ปรับตัวสูงขึ้นในระยะยาวเมื่อเทียบกับคู่แข่ง








