บล.พาย:
GFPT: GFPT PCL.
คาด 3Q25 มีกำไรสุทธิ 676 ล้านบาท
เราแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่คาดว่าจะสูงถึง 676 ล้านบาท (+25%YoY) จากผลดีของต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลงแรง โดยเฉพาะราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ที่ทำให้กำไรขั้นต้นสูงถึง 19.5% แม้ราคาเนื้อไก่ในประเทศและปริมาณการส่งออกจะลดลงที่ทำให้รายได้ลดลง 6%YoY สำหรับแนวโน้มช่วง 4Q25 เบื้องต้นคาดการส่งออกจะดีขึ้นจาก 3Q25 หลังจากปัญหาการาดแคลนแรงงานกัมพูชาเริ่มดีขึ้น ซึ่งจากผลดีดังกล่าวทำให้เราปรับกำไรสุทธิในปี 25 ขึ้นจากเดิม 29% มาอยู่ที่ 2,567 ล้านบาท แต่สำหรับปี 26 เรายังคงกำไรที่ 1,841 ล้านบาทไว้เท่าเดิมก่อน เพราะยังต้องรอดราคาสินค้าอีกครั้ง
คาด 3Q25 กำไรสุทธิ 676 ล้านบาท (+25%YoY, +5%QoQ)
- เราคาดผลประกอบการงวด 3Q25 ได้รับผลดีจากต้นทุนที่ปรับตัวลดลงมาชดเชยกับผลกระทบของปัญหาการขาดแคลนแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำให้การส่งออกลดลง รวมถึงราคาไก่ที่ลดลง โดยเราประเมินกำไรสุทธิที่ 676 ล้านบาท (+25%YoY, +5%QoQ)
- รายได้คาดที่ 4,734 ล้านบาท (-6%YoY, 3%QoQ) ลดลงจากผลกระทบของการส่งออกที่เหลือเพียง 8,000 ตัน เทียบกับ 9,500 ใน 3Q24 และ 8,500 ตัน ใน 2Q25 ซึ่งเกิดจากผลกระทบของการขาดแคลนแรงงานกัมพูชา รวมกับราคาเนื้อไก่ในประเทศที่ลดลงเหลือเพียงประมาณ 39.3 บาท จากระดับ 43 บาท/กก. ใน 3Q25
- กำไรขั้นต้นคาดที่ 19.5% ดีขึ้นจาก 15.5% ใน 3Q24 และ 16.7% ใน 2Q25 ได้รับปัจจัยบวกจากต้นทุนการเลี้ยงที่ยังคงเห็นการลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารคาดที่ 355 ล้านบาท (-14%YoY, +3%QoQ) เทียบกับปีก่อนได้รับผลดีจากค่าขนส่งที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นจาก 2Q25 เพราะมีค่าโอทีพนักงานเพิ่มเข้ามา
- ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมคาดลดลงเหลือ 123 ล้านบาท (-40%YoY, -388QoQ) ลดลงมากจาก GFN ที่ได้รับผลกระทบจากราคาโครงไก่ปรับตัวลดลงเหลือ 11.5 บาท/กก. จากระดับ 14.5 บาท/กก. ใน 3Q24 และ 2Q25 รวมถึงผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานกัมพูชาที่ GFN มีสัดส่วนแรงงานดังกล่าวกว่า 50%
4Q25 คาดส่งออกดีขึ้น แต่กำไรขั้นต้นอาจจะต่ำกว่า 3Q25
- ภาพรวมช่วง 4Q25 ปัจจัยบวกคือแนวโน้มการส่งออกที่คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อยจาก 3Q25 หลังจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานเริ่มดีขึ้น อย่างไรก็ตามแรงกดดันยังคงอยู่ที่ราคาเนื้อไก่ที่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 40 บาท/กก. รวมถึงราคาข้าวโพดที่เริ่มเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้กำไรขั้นต้นอ่อนตัวจาก 3Q25 ลง อย่างไรก็ตามหากเทียบกับ 4Q24 คาดยังเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้
ปรับกำไรปี 25 ขึ้น 29% แต่ปี 26 ยังคงเดิมก่อน
- หากกำไรสุทธิออกมาตามคาดจะทำให้กำไรสุทธิในช่วง 9M25 สูงถึง 1,957 ล้านบาท สูงกว่ากำไรทั้งปีที่เราคาดไว้แล้วที่ 1,797 ล้านบาท ดังนั้นเบื้องต้นเราจึงปรับกำไรปี 25 ขึ้น 29% มาอยู่ที่ 2,567 ล้านบาทโดยปรับกำไรขั้นต้นเป็น 17.1% จากเดิม 13.1% สำหรับปี 26 เรายังคงประมาณการเดิมที่ 1,841 ล้านบาทไปก่อน เนื่องจากยังต้องติดตามถึงราคาสินค้าว่าจะเปลียนแปลงมากน้อยเพียงใด และจากผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาดี เราจึงยังแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” เหมือนเดิมโดยประเมินมูลค่าเหมาะสมปรับไปใช้ปี 26 ที่ 13.4 บาท (9.1XPER 26E)








