บล.พาย:
BJC: Berli Jucker PCL
คาดกำไร 3Q25 เป็นจุดต่ำสุดของปี
เราปรับคำแนะนำขึ้นจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 22.00 บาท โดยเราคาดเห็นแนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วง 4Q25 ฟื้นตัว YoY และดีต่อเนื่องในปี 2026 รับปัจจัยบวกจากการปรับปรุงสาขาที่จะทยอยแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2025 และโครงการคนละครึ่งจะช่วยหนุนการบริโภคให้ช่วงที่เหลือของปีให้ดูดีกว่าปีก่อน ระยะสั้นคาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 642 ล้านบาท (-8%YoY) เนื่องจากการลดลงของยอดขายสาขาเดิม 4% YoY ผลจาก 1. การปรับปรุงสาขา 2. ฐานสูงจากมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาท และ 3. การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว
คาดกำไร 3Q25 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ
- คาดกำไรธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (BigC) ที่ 430 ล้านบาท (-29%YoY, -46%QoQ) ใน 3Q25 ผลจากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการลดลง และยอดขายสินค้าที่อ่อนตัว 4%YoY จาก SSSG ที่ -4.0% YoY ใน 3Q25 เทียบกับ -3.2% ใน 2Q25 ผลจาก 1. การปรับปรุงสาขา (มีผลกระทบต่อ SSSG ราว 1%) 2. ฐานสูงช่วงปลายเดือนก.ย. จากมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาทในปีก่อน (มีผลกระทบต่อ SSSG ราว 1%) และ 3. การลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยมี BigC hypermarket 155 สาขา (ปิด 1 สาขาที่ศรีนครินทร์) และ Mini Big 1,472 สาขา (ปิด 126 สาขา และเปิด 20 สาขาระหว่างไตรมาส) ณ สิ้นไตรมาส 3/25 อัตรากำไรขั้นต้นคาดหด ตัว 25 bps YoY เป็น 17.3% ใน 3Q25 จาก 17.5% ใน 3Q24 จากสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่ม non-food ที่ลดลง YoY ส่วนรายได้ค่าเช่าพื้นที่ศูนย์การค้าคาดลดลงเป็น 2.2 พันล้านบาท (-5%YoY) ใน 3Q25 ผลจากการปรับปรุงสาขา
- คาดธุรกิจอื่นๆ มีกำไรปรับตัวดีขึ้น โดยคาดกำไรธุรกิจบรรจุภัณฑ์ 550 ล้านบาท (+2%YoY, +1%QoQ) ใน 3Q25 ผลจากรายได้บรรจุภัณฑ์จะปรับตัวลดลงเป็น 5.6 พันล้านบาท (-4%YoY) จากยอดขายบรรจุภัณฑ์แก้วที่ลดลง 9% แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจบรรจุภัณฑ์จะเพิ่มขึ้น 100 bps YoY ที่ 23.0% ใน 3Q25 ลดลงเล็กน้อยจาก 22.0% ใน 1Q25 ผลจากต้นทุน Soda Ash และเศษแก้วที่ปรับตัวลดลง คาดกำไรธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค 300 ล้านบาท (+9%YoY, -27%QoQ) ใน 3Q25 หนุนจากยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคกลุ่มทิชชู่ และ Personal Care ที่เติบโตดีต่อเนื่อง YoY และคาดอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัว 10bps ที่ 19.5% ใน 3Q25 และคาดกำไรธุรกิจเวชภัณฑ์และเทคนิค 230 ล้านบาท (+10%YoY, -21%QoQ) ใน 3Q25
แนวโน้มกลับมาสดใส
- การปรับปรุงสาขาใหญ่ 17 สาขา ในปี 2025 แล้วเสร็จ 6 สาขาใน 1H25 จะทยอยเสร็จในเดือนพ.ย. 2025 ถึง ต้น ธ.ค. 2025
- SSSG ช่วง QTD ของ 4Q25 ติดลบลดลงเหลือ -1% ถึง -3% เทียบกับ -4% ช่วง 3Q25 และมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเห็นการฟื้นตัวเด่นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนต.ค. 2025 หลังสัปดาห์แรกมีผลกระทบจากฐานสูงของมาตรการแจกเงิน 1 หมื่นบาทในปีก่อน โดยเราคาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการปรับปรุงสาขาที่ทยอยแล้วเสร็จจะหนุน SSSG ให้ฟื้นตัวโดดเด่น
คำแนะนำ “ซื้อ” แนวโน้มกลับมาสดใส
มูลค่าพื้นฐาน 22.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 8.0% และ TG 1.5%) ใกล้เคียง 0.7 เท่า PBV และเทียบเท่า 18xPE’26E (เดิม 21.00 บาท) หลังเลื่อนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2026








