บล.กรุงศรีฯ: 

OR (Buy;TP17.0)

มอง Positive ต่อทิศทางการฟื้นของค่าการตลาดน้ำมันที่มีเหนือผลกระทบ low season และความขัดแย้งกัมพูชากระทบส่วนธุรกิจ Global

คาดแนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q25F ราว 2.6 พันลบ. (พลิกกำไร y-y, +18% q-q) ฟื้นตัว q-q ได้ เพราะ กำไรขั้นต้นต่อลิตรธุรกิจ Mobility ที่ฟื้นเป็นราว 1 บาท/ลิตร (+98% y-y, +19% q-q) จากปรับราคาได้ยืดหยุ่นมากขึ้นในสภาวะที่กองทุนน้ำมันติดลบน้อยลง กลบ ผลกระทบของ low season ที่ฉุดยอดขายน้ำมัน -8% y-y, -7% q-q และ ความขัดแย้งกัมพูชา กระทบยอดขายธุรกิจ Global (7% ของรายได้รวม OR) -13% y-y, -12% q-q ได้

ธุรกิจในกัมพูชาแม้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างประเทศ ส่งให้ใน 3Q25F ปริมาณขายน้ำมันในกัมพูชาลดลง 55% (ปริมาณขายน้ำมันในกัมพูชาคิดเป็นราว 30% ของ Global และ 2% ของทั้งหมด), มีการปิดสาขาน้ำมันไปราว 36 แห่ง หรือ 18% ของจำนวนสาขาในกัมพูชา และ ปิดสาขาคาเฟ่อเมซอน 42 แห่ง หรือราว16% ของสาขาในกัมพูชา แต่ทั้งหมดเป็นสาขา DODO ทำให้ยังไม่มีผลกระทบของการ write off asset อย่างมีนัยสำคัญภายใน 1H26F โดย 4Q25TD รายได้ในกัมพูชาทรงตัว q-q ทั้งนี้เราคงมุมมองแม้การลดลงของรายได้กัมพูชาจะมีต่อเนื่อง แต่จะไม่ได้เปลี่ยนทิศการฟื้นตัวของภาพรวมธุรกิจ OR ในระยะยาว (ประเมิน downside worst case กรณีหยุดธุรกิจในกัมพูชา จะกระทบราคาเป้าหมาย -1.3-1.6 บาท/หุ้น)

คาดแนวโน้มกำไรปกติ 4Q25F ฟื้นต่อ q-q หนุนจาก i) ธุรกิจ Mobility ที่ปริมาณฟื้นหลังออกจาก low season และกำไรขั้นต้นต่อลิตรทรงตัวอยู่ในระดับสูง q-q และ ii) ธุรกิจ Lifestyle ที่ปริมาณขายเพิ่มตามการขยายสาขา และรายได้ค้าปลีกฟื้นจาก low season หนุน ebitda margin

คงคำแนะนำ Buy คงมุมมองธุรกิจ Mobility อยู่ในวงจรฟื้นตัว จากภาครัฐมีแนวโน้มแทรกแซงราคาน้ำมันน้อยลง หนุนกำไรขั้นต้นต่อลิตร คาดกำไรฟื้นต่อเนื่องใน 2025-26F +23% CAGR

- Advertisement -