หลากหลายปัจจัยหนุนหุ้นไทยเดินหน้าต่อ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 472 จุด (+1%) แรงหนุนหลักจากเงินเฟ้อสหรัฐฯ รายงานต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.47% เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจต่อการคว่าบาตรของสหรัฐฯ
Market Outlook
คืนวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศเงินเฟ้อ (CPI) พบว่าขยายตัวที่ 3%YoY ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1%YoY และเงินเฟือพื้นฐาน (Core CPI) ขยายตัวที่ 3%YoY การปรับลงของราคาน้ำมันดิบยังเป็นปัจจัยหลักที่กดดันเงินเฟ้อสหรัฐฯมิให้ขยายตัวสูง โดยราคาน้ำมันเบนซินลดลง 0.5%YoY พร้อมกับราคาเสื้อผ้าที่ลดลง -0.1%YoY ด้วยเงินเฟ้อที่ลดลงและไม่ได้ร้อนแรงจนเกินไปเมื่อภาษีของสหรัฐฯ ดำเนินการแล้ว ทำให้นักลงทุนมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยของ FED ข้อมูลจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักมากถึง 98% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% และตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ปรับขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (มองเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นสัปดาห์)
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยหนุนจากการลดดอกเบี้ยของ FED แต่ตลาดหุ้นไทยอาจมีเรื่องอ่อนไหวเฉพาะตัวที่เสี่ยงจะเพิ่ม Downside Risk ต่อเศรษฐกิจไทย รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มจำพวกสื่อ , ค้าปลีก , ท่องเที่ยว แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นเพียงปัจจัยกดดันระยะสั้น และไม่มีผลอย่างมีนัยยะสำคัญต่อพื้นฐานตลาดหุ้นไทยรวมไปถึงเศรษฐกิจไทย หากตลาดหุ้นไทยปรับลงมาจากปัจจัยอ่อนไหวข้างต้น อาจเป็นโอกาสเข้าสะสมมากกว่า สถิติครั้งก่อนกับปัจจัยอ่อนไหวพบว่า SET INDEX ปรับลง 7% และหลังจากนั้นก็ฟื้นตัวกลับมาได้ เมื่อประกอบกับความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง ทำให้เชื่อว่าปัจจัยอ่อนไหวของประเทศไทยจะไม่กดดัน SET INDEX อย่างมีนัยยะ คืนนี้ไม่มีปัจจัยสำคัญต้องติดตาม เพราะไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ แต่ไทยจะมีการประกาศมูลค่าการค้าขายระหว่างประเทศ Bloomberg Consensus คาดไว้การส่งออกจะขยายตัว 7.2%YoY
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1300 – 1325 ปัจจัยหนุนทั้งจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับขึ้นผสานกับความคืบหน้าการเจรจาการค้าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้นไทย กลยุทธ์การลงทุนหากผิดคาดตลาดหุ้นปรับฐานมองเป็นโอกาสสะสมในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นของภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT HMPRO) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 78.00 บาท)
Valuation ที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ราว 14xPE’26E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต พร้อมด้วยผลตอบแทนเงินปันผลคาดหวังระดับ 3% โดยเราคาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 6.6 พันล้านบาท (+6%YoY, -6%QoQ) หนุนจากการขยายสาขาและอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 10 bps YoY
CPAXT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท)
ระยะสั้นคาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 2.3 พันล้านบาท (+6%YoY, +1%QoQ) หนุนจากยอดขายที่โต 3%YoY ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายลดลง YoY จากการค่าใช้จ่ายควบคุมที่ดี แม้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัว Yoy กดดันจากยอดขายสินค้า non-food ที่หดตัว YoY
