วานนี้ตลาดหุ้นไทยไม่รวม DELTA ปรับลง แต่มองเพียงระยะสั้น
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 337 จุด (+0.7%) แรงหนุนหลักมาจากความขาดหวังเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.49% นักลงทุนกังวลว่า OPEC+ จะปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้งในเดือน ธ.ค.
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะ S&P500 หุ้น Technology ยังคงเป็นแรงหนุนหลัก Alphabet +3.6% NVIDIA +2.8% AAPL +2.3% จากกระแส Al , Data Center ส่วนราคาทองคำเริ่มโดนขายทำกำไรจากการที่จีนกับสหรัฐฯ เริ่มจะพูดคุยหารือกันมากขึ้นประกอบกับที่ผ่านมาปรับขึ้นค่อนข้างเยอะ จากนี้แนะรอติดตามผลประกอบการที่จะทยอยรายงานออกมาสำหรับหุ้น Technology ในสหรัฐฯ เพราะสัปดาหนี้มีหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว อาทิ MS.Alphabet หากประกาศกำไรดีกว่าคาดการณ์ เชื่อว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวก
ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานมูลค่าการส่งออกประจำเดือน ก.ย. พบว่าขยายตัวได้ดีราว 19%YoY สูงสุดในรอบ 42 เดือน แม้จะหักสินค้าเกี่ยวข้องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธก็ยังขยายตัวได้ 16%YoY เร่งขึ้นตามความชัดเจนของมาตรการภาษีนำเข้าต่างตอบแทนของสหรัฐฯ สินค้าที่ขยายตัวเด่นมาจากเครื่องคอม อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+58%YoY) รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (+15%YoY) ตลาดหลักที่ขยายตัวได้ดีมาจากสหรัฐฯ (+35%YoY) มองบวกกับหุ้นในกลุ่มชื้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA ซึ่งผลประกอบการ 3Q25 รายงานมาค่อนข้างดี สอดคล้องกับราคาหันที่เมื่อวานบวก 9.8% และหนนดัชนีมากถึง 19.6 จุด สวนทางกับหุ้นตัวอื่นๆ ที่ปรับลง อาทิ CPALL CPN และกลุ่ม Bank คาดว่ามาจากปัจจัยอ่อนไหวในประเทศที่เกิดขึ้นเพราะนักลงทุนบางส่วนอาจมองว่ากระทบกับเศรษฐกิจและการบริโภค แต่อย่างไรก็ตามมองเป็นเพียงระยะสั้นและเชื่อว่าไม่ได้กระทบกับพื้นฐานเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนอย่างมีนัยยะสำคัญการปรับลงจึงมองเป็นโอกาสเข้าสะสมมากกว่า
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1310 – 1335 น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ เพราะวานนี้เชื่อว่าตลาด Price In ปัจจัยอ่อนไหวในประเทศไปแล้ว ขณะที่บรรยากาศรอบโลกค่อนข้างสดใส นักลงทุนคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ FED และ AI ยังเป็น Theme หลักขับเคลื่อน (ดีเชิงจิตวิทยากับ DELTA) กลยุทธ์การลงทุนมองหุ้นที่อิงเศรษฐกิจภายในที่ปรับลงเป็นโอกาสสะสมมากกว่า อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL CPAXT HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (CENTEL MINT)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่จำกัดการขยายตัวของสินเชื่อ และคุณภาพสินเชื่ออาจอ่อนแอลง SCB เพิ่มความระมัดระวังด้วยการตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษรวม 3 พันลบ. ใน 9M25 รองรับความผันผวน และอาจพิจารณากลับเป็นรายได้ในอนาคตหากสถานการณ์คลี่คลายลงนอกจากนี้ กลยุทธ์การนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพทำให้ควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้ดีส่งผลให้ Cost to income ratio ทรงตัวราว 40%
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
2H25 เบื้องต้นคาดมีโอกาสเห็นการฟื้นตัวในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการเปิดโครงการใหม่เพิ่มและการเร่งโอนคอนโดใหม่เข้ามา ขณะที่ธุรกิจศูนย์การค้าได้รับผลดีจากการเปิดโครงการเซ็นทรัล พาร์ค และกระบี่ ที่มีกำหนดเปิดในช่วง เดือน ก.ย. และ ต.ค.ตามลำดับ








