บล.กรุงศรีฯ:
SCGP (Reduce; TP25F =16)
มอง Neutral ต่อกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 953 ลบ. (+65% y-y, -6% q-q) ใกล้เคียงเราและตลาดคาด หากตัดรายการพิเศษออก กำไรปกติ 998 ลบ. (+48% y-y, +1% q-q) สูงกว่าเราคาด 4% จากมี fx gain ในส่วนของการปรับมูลสินทรัพย์เข้ามา กลบ กำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยได้
3Q25 ฟื้น y-y (ฐานต่ำ) ตามปริมาณขาย integrated packaing ที่ +5% y-y และต้นทุนกระดาษลดลง ส่วนการทรงตัว q-q ค่าใช้จ่ายบริหารที่ลดลงจากมี fx gain ช่วยชดเชย กำไรขั้นต้นที่ลดลงจากราคาขายได้ (ปริมาณขายทรงตัว q-q)
คงมุมมอง 4Q25F กำไรลดลง q-q จากสภาวะการแข่งขันสูงมากขึ้น ฉุดรายได้
คงคำแนะนำ Reduce: คงมุมมอง 2H25-1H26F ยังเผชิญการแข่งขันสูงจาก supply ใหม่ในจีนและอินโดฯ ในขณะที่ราคาหุ้นสะท้อนความคาดหวังการฟื้นตัวไประดับหนึ่งแล้ว
- SCGP ประกาศเข้าซื้อ MYPAK ที่ทำธุรกิจกล่องกระดาษในอินโดฯกำลังการผลิต 144,000 ตัน คิดเป็นส่วนเพิ่มราว 9.6% ของกำลังการผลิต Fiber packaging ทั้งหมดของ SCGP (รายได้ Fiber packaging คิดเป็นราว 25% ของรายได้ทั้งหมดของ SCGP)
- บริษัทประเมิน MYPAK มีแนวโน้มเข้ามาช่วยเพิ่ม integration level ในอินโดฯ จาก 18% เป็น 26% ในระยะยาว (Vs. integration level โรงผลิตในไทย/เวียดนาม ที่ 50%/52%) ช่วยเพิ่มอัตรากำไรให้ Fajar จากมี downstream เข้ามาทำให้เพิ่มอำนาจต่อรอง
- ทั้งนี้เราอยู่ระหว่างรอข้อมูลเพิ่มก่อนรวมดีลดังกล่าวในประมาณการ โดยบริษัทยังไม่เปิดเผย u-rate/ margin/ capital structure/ สัดส่วนการซื้อกระดาษจาก Fajar ก่อนเข้าซื้อกิจการ/ กำไร/ มูลค่าการเข้าซื้อ








