บล.พาย:

BBL: Bangkok Bank PCL

NIM อ่อนตัวฉุดกำไรปี 2026 ลดลง

เราคงคำแนะนำ “ถือ” และปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 168 บาท (เดิม 158 บาท) จากการปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น ประเมินด้วยวิธี GGM (ROE 7%, Terminal growth 2%) อิงกับ 0.52x PBV’26E เราปรับประมาณการกำไรสูงขึ้นจากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งใน 3Q25 โดยเฉพาะจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยคาดกำไรในปี 2025 จะปรับสูงขึ้น 4% อย่างไรก็ดี ความท้าทายเศรษฐกิจสูงขึ้น เราคาดกำไรสุทธิจะปรับลดลง 5% ในปี 2026 กดดันให้ ROE อ่อนแอลงเหลือ 8.2%/7.4% ในปี 2025-26 โดยคาดผลตอบแทนเงินปั่นผลสูงราว 5.6% ในปี 2025-26 เป็นปัจจัยจำกัดความผันผวนของราคาหุ้น

การประชุมนักวิเคราะห์

  • ธนาคารคาดเศรษฐกิจไทยเติบโตราว 1.5-2.0% ในปี 2025-26 โดยมองว่านโยบายการค้าของสหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงขึ้น รวมทั้งสินค้าไทยที่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 19% ไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงมากอย่างที่เคยกังวล แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ทั้งนี้ธนาคารมองว่า กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งเท่านั้น
  • ไทยสามารถถึงดูดการลงทุนต่างชาติ (Foreign direct investment) แต่อาจต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปีกว่าจะเกิดการลงทุนที่แท้จริง และมองว่าธนาคารจะได้รับประโยชน์ในอีก 2-4 ปีข้างหน้า ไทยจะได้รับประโยชน์ด้าน Supply chain ขยายตัวในประเทศ
  • แม้สินเชื่อบริษัทขนาดใหญ่เติบโต แต่สินเชื่อใน 9M25 ลดลง 3.2%YTD จากการชำระคืนหนี้ของลูกค้ากลุ่มอื่น รวมทั้งสินเชื่อต่างประเทศลดลง เพราะภาวะการแข่งขันสูงขึ้น ดังนั้น แนวโน้มสินเชื่อในปี 2025 อาจแค่ทรงตัว หรือหดตัว ซึ่งจะต่ำกว่าเป้าหมายที่ 3-4% โดยเน้นขยายสินเชื่อที่มีคุณภาพ และไม่แข่งขันด้านราคา
  • ส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) คาดจะอยู่ที่ราว 2.8% ทำได้ตามเป้าหมาย 2.8%- 2.9%
  • การปรับโครงสร้างหนี้อย่างจริงจังทำให้คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น หนี้เสียแนวโน้มปรับชั้นดีขึ้น NPL ratio อยู่ที่ 13% สิ้นปี 2025 ตามเป้าหมาย
  • ธนาคารมีเงินกองทุนแข็งแกร่งที่ 22.6% มีนโยบายรักษาการจ่ายเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) แม้กำไรในอนาคตอาจปรับลดลง เราคาด BBL จะจ่ายเงินปันผลที่ 8.8 บาท/หุ้น ในปี 2025-26

คาดกำไรในปี 2026 ชะลอตัวฉุดจาก NIM ลดลง

  • เราปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นราว 5% ในปี 2025-26 จากการปรับกำไรจากพอร์ตลงทุนสูงขึ้นจากผลการดำเนินงานใน 3Q25 ที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2025 จะปรับเพิ่มขึ้น 4% อย่างไรก็ดี เราคาดกำไรในปี 2026 จะลดลง 5% เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจาก NIM ลดลง ผลกระทบจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง นอกจากนี้ ฐานของกำไรพอร์ตลงทุนที่สูงในปี 2025 เป็นอีกปัจจัยที่อาจกดดันรายได้ที่มีใช่ดอกเบี้ยลดลง ซึ่งผันผวนล้อกับภาวะการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นจากเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวลงในปี 2026
  • ใน 4Q25 คาดกำไรจะปรับลดลงทั้ง YoY และ QoQ เหลือราว 9 พันลบ. เพราะรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง และค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้น
- Advertisement -