บล.ฟินันเซีย ไซรัส:
(-) EGCO แนวโน้มกำไร 3Q25 หดตัวทั้ง q-q, y-y หลักๆ มาจากผลกระทบของโรงไฟฟ้าถ่านหิน QPL หยุดปรับปรุงเครื่องจักรและส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q25 อยู่ที่ 468 ลบ. หดตัว จาก 2.1 พันลบ. ใน 2Q25 และ 2.46 พันลบ. ใน 3Q24 หลักๆ มาจาก
1) โรงไฟฟ้าถ่านหิน QPL ฟิลิปปินส์ ซึ่ง EGCO ถือหุ้น 100% หยุดเดินเครื่องและปรับปรุงเครื่องจักรเกือบทั้งไตรมาส เพื่อเดินเครื่องภายใต้สัญญาใหม่กับกลุ่มบริษัทในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบันได้กลับมาเดินเครื่องแล้วเมื่อ 26 ต.ค. 2025 เป็นต้นมา ส่งผลทำให้รายได้จากโรงไฟฟ้า QPL หยุดเดินเครื่องเพื่อปรับปรุงเครื่องจักรและดำเนินงานภายใต้สัญญาใหม่ คาดว่าจะมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานประมาณ 800 ล้านบาท และ
2) ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม โดยรวมคาดมีกำไรจากการดำเนินงานราว 1.3 พันลบ. ลดลง 42% q-q, 58% y-y โดยโรงไฟฟ้าหลักอาธิ โรงไฟฟ้า Paju เกาหลีใต้มีกำไรลดลงจากค่าไฟฟ้าที่ปรับลงจากภาวะการแข่งขันสูง โรงไฟฟ้าลม Yulin ไต้หวัน ยังขาดทุนต่อเนื่องจาก low season โครงการ CDI มีกำไรลดลงมากเนื่องจากมีกำไรจากเงินลงทุนที่ mark to market ลดลงมาก และโครงการ APEX สหรัฐมีกำไรลดลง q-q จากการขายโครงการที่ลดลง แม้โรงไฟฟ้าในสหรัฐ compass และ LINDEN จะมีกำไรเพิ่มขึ้นจากค่าไฟฟ้าที่ปรับสูงขึ้นมาก และโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำอย่าง ไซยะบุรี น้ำเทิน 1-2 มีกำไรดีขึ้นตามฤดูน้ำ แต่ไม่สามารถชดเชยได้
นอกจากนี้ไตรมาสนี้คาดมีผลขาดทุจาก FX จากการอ่อนค่าของค่าเงินวอนต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ หากไม่รวมผลกระทบจาก FX จะมีกำไรปกติ 1.3 พันลบ. ลดลง 65% q-q และ 64.8% y-y ต่ำกว่าที่เราคาดก่อนหน้านี้มาก หลังโรงไฟฟ้าถ่านหิน QPL หยุดนานกว่าคาดและมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรมากกว่าคาด
แนวโน้ม 4Q25 จะกลับมาฟื้นตัวหลังโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน QPL กลับมาเดินเครื่อง แต่ก็จะไม่สูงเท่าเดิมเนื่องจากสัญญา PPA ใหม่มีอัตราไฟและกำลังผลิตที่ต่ำกว่าสัญญาเดิม และโรงไฟฟ้าลม Yulin จะกลับมาเป็นกำไร รวมถึงโรงไฟฟ้าในสหรัฐคาดกำไรดีขึ้น y-y แต่จะทรงตัว q-q ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจะมีกำไรลดลงตามฤดูกาล โดยรวมกำไรปกติ 9M25 คิดเป็น 72% ของประมาณการทั้งปี 2025 ที่ 8.6 พันลบ. ราคาเป้าหมาย 140 บาท แม้ราคาปรับลงมาค่อนข้างมาก แต่คาดงบ 3Q25 จะหดตัวมากกว่าที่เราเคยคาด จึงยังแนะนำเพียง ถือ







