Fed Dovish น้อยกว่าที่ตลาดคาด

มุมมองตลาด:

เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยยังต้องจับตาแนวรับหลักระยะสั้นบริเวณ 1,310 จุด แม้ Fed จะลดดอกเบี้ยลง 25 bps สู่ระดับ 3.75–4% ตามคาด และประกาศเริ่มยุติการลดขนาดงบดุลในเดือนธ.ค. แต่ตลาดผิดหวังจากถ้อยแถลงของประธาน Fed ที่ยังไม่ให้ความชัดเจนว่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมเดือนธ.ค. ส่งผลให้ความน่าจะเป็นในการลดดอกเบี้ยรอบถัดไปถูกปรับลดจากกว่า 90% เหลือราว 70% ทำให้ Dollar Index พุ่งขึ้นเหนือ 99 จุด กดดันราคาทองคำและค่าเงินเอเชีย อย่างไรก็ตามกลุ่มเทคโนโลยียังคงมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด

ปัจจัยต่างประเทศ:

ตลาดรอติดตามการประชุม BoJ และ ECB ซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน Highlight สำคัญคือการพบกันระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิงในวันนี้ โดยตลาดจับตาว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าบางส่วนได้ตามที่ตลาดคาดหวังหรือไม่

ปัจจัยในประเทศ:

เรายังคาดหวังผลบวกจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเริ่มเห็นผลในเดือนพ.ย. ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการบริโภคและความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ฟื้นตัวขึ้น ส่วนผลประกอบการ 3Q25 ของ Real Sector ภาพรวมไม่สดใสนัก แต่หากประมาณการ EPS ปี 2025–26 ไม่ถูกปรับลดลง จะช่วยสร้างความมั่นใจต่อตลาด และเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีทยอยฟื้นตัวในระยะถัดไป อีกทั้งต้องติดตามหลังตลาดปิดวันนี้ว่า DELTA จะถูกต่ออายุมาตรการ Trading Alert Level 1 หรือไม่

กลยุทธ์: เลือกลงทุนในหุ้น Domestic และ Consumption Play ที่มีกำไรครึ่งหลังปี 2025 แข็งแรง และได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

หุ้นเด่นวันนี้: KTB

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 29 บาท 
  • เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ KTB ทั้งในเชิง Sentiment จากโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ผ่านแอปเป๋าตัง และแนวโน้มสินเชื่อที่คาดเติบโตแข็งแกร่งกว่ากลุ่มจากการลงทุนภาครัฐที่เร่งตัวในปี 2026 ระยะสั้นแม้ถ้อยแถลงของ Fed จะ Dovish น้อยกว่าที่คาด ซึ่งอาจทำให้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของกนง.เกิดช้าขึ้นเพื่อรักษาช่องว่างนโยบายการเงิน (Policy Gap) แต่เรามองว่ายังไม่เป็นปัจจัยลบต่อแนวโน้มการเติบโตของธนาคารในระยะกลาง
  • แนวรับ 26.50–26 บาท แนวต้าน 27.50–27.75 / 28.50 บาท

ประเด็นสำคัญวันนี้:

  • SCC รายงานขาดทุนสุทธิ 3Q25 ที่ 669 ลบ. มากกว่าคาด จาก Stock Loss สูง เมื่อหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 774 ลบ. (-75% q-q) แต่ดีขึ้น y-y โดยแนวโน้ม 4Q25 คาดดีขึ้นจากธุรกิจหลักเข้าสู่ High Season คงราคาเป้าหมาย 220 บาท แนะนำ “ถือ”
  • BBL ผู้บริหารคาดสินเชื่อปี 2025 ทรงตัวหรือติดลบเล็กน้อย NPL 4Q25 คาดอยู่ที่ 3.89% คาดจ่ายปันผล 8.50 บาท/หุ้น ปรับเพิ่มกำไรปี 2025 ขึ้น 10% และลดปี 2026–27 ลง 5–9% ราคาเป้าหมายปี 2026 ที่ 177 บาท แนะนำ “ซื้อ”
  • TFG คาดกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 1.64 พันลบ. (-36% q-q, +30% y-y) ลดลงจากราคาหมูในไทยและเวียดนามที่ปรับลงแรง คาดกำไร 4Q25 ที่ 1.18 พันลบ. ปรับลดกำไรปี 2025 เป็น 7.4 พันลบ. (+136% y-y) และคาดปี 2026 ลดลง 12% y-y ราคาเป้าหมายใหม่ 6.30 บาท แนะนำ “ซื้อ”
  • EGCO คาดกำไรปกติ 3Q25 ลดลงแรง (-61% q-q, -65% y-y) จากโรงไฟฟ้า QPL ปิดซ่อมและส่วนแบ่งกำไรลดลง คาดฟื้นใน 4Q25 หลังกลับมาเดินเครื่อง คงราคาเป้าหมาย 140 บาท แนะนำ “ถือ”
  • MINT คาดกำไรปกติ 3Q25 ที่ 2.8 พันลบ. (-17% q-q, +7% y-y) ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารอ่อนตัวตามฤดูกาล แต่คาด 4Q25 ฟื้นทั้ง q-q และ y-y จาก High Season โรงแรมยุโรปและไทย คงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มกำไรปีนี้
- Advertisement -