ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง “ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์” ขายไอพีโอ 90 ล้านหุ้น เตรียมเข้า mai ต้นปี 69 ระดมทุนขยายธุรกิจ-เพิ่มประสิทธิภาพ หนุนอนาคตเติบโตอย่างยั่งยืน

ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEBP ผู้ให้บริการรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ครบวงจร ผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพและไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 90 ล้านหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายในต้นปี 2569 ระดมทุนรองรับแผนขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพและการบริหารจัดการกากอินทรีย์ เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต พร้อมทั้งต่อยอดบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบัน เพื่อเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่ง สนับสนุนการเติบโตสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) อย่างยั่งยืน ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจพลังงานสะอาด สอดรับเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ของประเทศไทย

นางรัชดา เกลียวปฏินนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ของ TEBP เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ของ TEBP เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

โดย TEBP จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 90 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1.00 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย TEBP จำนวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น รวมทั้งหมดไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของ TEBP ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO และจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ( mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร คาดว่าจะเข้าเทรดได้ภายในต้นปี 2569

“TEBP เป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ทิศทางการใช้พลังงานสะอาดของลูกค้า และสอดรับกับนโยบายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทยในภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจอื่นๆ ด้วยความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับบริหารจัดการกากอินทรีย์อย่างครบวงจร การผลิตก๊าซชีวภาพ และการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ทำให้ TEBP เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของประเทศไทย การเข้าระดมทุนในตลาด mai จะเป็นแรงส่งสำคัญที่ช่วยเสริมฐานทุน และเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางรัชดา กล่าว 

นายก้องกิต โกกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ TEBP กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยวัตถุประสงค์การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปลงทุนในโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพและการบริหารจัดการกากอินทรีย์ และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือการต่อยอดบริการและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจปัจจุบันของ TEBP และเพื่อชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน รวมถึงเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน 

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ในครั้งนี้ เป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ทำให้บริษัทฯ มีฐานทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อขยายขีดความสามารถด้านการผลิตก๊าซชีวภาพสำหรับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมหรือภาคธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องการพลังงานสะอาดเพื่อใช้ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล และสอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ในส่วนธุรกิจบริหารจัดการกากอินทรีย์ หรือ OWM ทาง TEBP มีการลงทุนเพื่อขยายปริมาณรับบริหารจัดการกากอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง โมเดลธุรกิจของของ TEBP สามารถตอบโจทย์ด้านการลดผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งของตนเองและของลูกค้า รวมถึงส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนพร้อมกับสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ โดยการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ TEBP ก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์อย่างครบวงจรของประเทศไทย รวมทั้งเพิ่มศักยภาพการเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต” นายก้องกิตกล่าว

ปัจจุบัน TEBP ประกอบธุรกิจหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1. ธุรกิจรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจร (Organic Waste Management หรือ OWM), 2. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ (Biogas) และ 3. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ 

สำหรับผลการดำเนินงาน ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565-2567) มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 188.41 ล้านบาท, 221.28 ล้านบาท และ 251.01 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ  24.76 ล้านบาท 76.90 ล้านบาท และ 68.35 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนงวดบัญชี 6 เดือนปี 2568 สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2568 มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 166.03 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.37 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงานของ TEBP มีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากธุรกิจรับบริหารจัดการกากอินทรีย์และธุรกิจผลิตและจำหน่ายก๊าซชีวภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากปริมาณการให้บริการและการจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น ตามโครงการลงทุนของ TEBP ที่มีการขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา  

ปัจจุบัน TEBP มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท เป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 225 ล้านบาท (ณ วันที่ 30 เมษายน 2568) มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองตามกฎหมายในแต่ละปี

- Advertisement -