บล.พาย:
MEGA: Mega Lifesciences PCL
แนวโน้มกำไรฟื้นตัว ปัญหาในเมียนมาเริ่มคลี่คลาย
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 34.00 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายเพียง 13xPE’25E สะท้อนสถานการณ์ความไม่แน่นอนและการชะลอตัวของกำลังซื้อผู้บริโภคในเมียนมาไปค่อนข้างมากแล้ว คาดรายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 495 ล้านบาท (+27%QoQ) จากรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่าย Maxxcare’s ในประเทศเมียนมาที่ฟื้นตัวหลังปัญหาใบอนุญาตนำเข้าคลี่คลาย แต่ยังลดลง YoY จากอัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น YoY ขณะที่คาดแนวโน้มกำไร 4Q25 ฟื้นตัว YoY และ QoQ ต่อเนื่องจากช่วง High season และฐานต่ำของธุรกิจจัดจำหน่ายในปีก่อน
Maxxcare’s และภาษีจ่ายกดดันผลประกอบการ
- คาดรายได้จากธุรกิจ Mega We Care (ยาและอาหารเสริม) เติบโต YoY เป็น 2.2 พันล้านบาท (+6%YoY) ใน 3Q25 จากปริมาณการขายที่เติบโตจากทั้งยอดขายยาที่เติบโตดี และการเพิ่มขึ้นของยอดขายจากสินค้าใหม่ และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในกลุ่มสินค้า (วิตามินและอาหารเสริม) ทำให้มีรายได้ที่เติบโตในทุกภูมิภาค ประกอบด้วย ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สัดส่วน 78% ของยอดขาย), แอฟริกา (สัดส่วน 11% ของยอดขาย), และภูมิภาคอื่นๆ (สัดส่วน 11% ของยอดขาย), ขณะที่คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ธุรกิจ Mega We Care
 อยู่ในกรอบ 63%-65.0% ใน 3Q25 ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา
- คาดรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่าย (Maxxcare’s) ลดลง YoY ที่ 1.3 พ้นล้านบาท (-30%YoY) ใน 3Q25 สืบเนื่องจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศเมียนมาที่ลดลง แต่เริ่มทยอยดีขึ้นหลังปัญหาใบอนุญาตนำเข้าคลี่คลาย ขณะที่ประเทศอื่นๆ ยังโต YoY โดยคาดว่าอัตรากำไร ขั้นต้น (GPM) ของหน่วยธุรกิจนี้ใกล้เคียงกับช่วงที่ผ่านมา
- คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 31.1% ใน 3Q25 จาก 27.5% ใน 3Q24 ผลจากรายได้ที่ลดลง YoY แต่ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าตามการฟื้นตัวของรายได้
สร้างโรงงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
โรงงานในเวียดนามที่เริมก่อสร้างแล้ว และโรงงานในเมียนมาที่มีแผน ก่อสร้าง โดยมีกำหนดแล้วสร้างพร้อมกันช่วงปี 2028 และผลิตจำหน่าย ช่วงปี 2029 จะช่วยเสริมความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
ระยะสั้นเราคาดว่ายอดขายธุรกิจยาและอาหารเสริม (Mega We Care) จะขยายตัว 5%YoY ในปี 2026 หนุนจากการออกสินค้าใหม่ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งในหมวดยา (สัดส่วน 70%) และอาหารเสริม (สัดส่วน 30%) ซึ่งยาส่วนใหญ่จะอยู่ในหมวดทางเดินหายใจ เบาหวาน โรคหัวใจ โรคกระดูก และเนื้องอกมะเร็ง ขณะที่รายได้ธุรกิจจัดจำหน่าย (Maxxcare’s) คาดว่าจะฟื้นตัวได้ YoY หลังปัญหาใบอนุญาตนำเข้าคลี่คลายใน 3 นอกจากนี้ปี 2026 จะได้แรงหนุนจากยอดขายในอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นหลังทยอยนำสินค้าเข้าไปขายรวมถึงผลิตสินค้าและขาย หลังจากเข้าซื้อโรงงานผลิตยาในช่วง 3 ปีที่แล้ว
คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นสะท้อนกำลังซื้อในเมียนมาที่ลดลงไปแล้ว
มูลค่าพื้นฐานที่ 34.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ด้วย WACC 9.9% และ TG 2% เทียบเท่า 15xPE’26E หรือ -2SD ของ ค่าเฉลี่ยการซื้อขายในรอบ 5 ปี และคิดเป็นส่วนลด 50% จากค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์และโรงพยาบาลในไทย สะท้อนความเสี่ยงจากธุรกิจในเมียนมา






