กลยุทธ์วันนี้: SET ยังอยู่ในภาพเชิงบวก แม้ระยะสั้นเผชิญความผันผวน
มุมมองตลาด:
เราคาดว่า SET Index ยังมีโอกาสเผชิญความผันผวนในช่วงเช้า โดยมีประเด็นจาก DELTA ที่ตลาดฯ ขยายมาตรการ T1 ต่อถึง 20 พ.ย. 68 อย่างไรก็ตามราคาหุ้น DELTA ที่ปรับลงวานนี้เชื่อว่าซึมซับประเด็นไปแล้วบางส่วน ดังนั้น เรามองว่า SET วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นได้ หากยืนเหนือแนวรับ 1,310 ± จุด และหากปิดเหนือ 1,325 จุด จะเป็นสัญญาณบวกทางเทคนิคระยะกลาง โดยคาดกรอบการแกว่งตัวอยู่ที่ 1,300–1,330 จุด
ปัจจัยต่างประเทศ
เริ่มผ่อนคลายขึ้น หลังสหรัฐฯ ประกาศลดภาษีสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลลง 10% มีผลทันที ส่งผลให้อัตราภาษีเฉลี่ยสินค้าจีนลดเหลือ 47% จาก 57% เพื่อแลกกับการที่จีนจะกลับมาซื้อถั่วเหลือง ส่งออกแร่หายาก และร่วมปราบปรามการค้าเฟนทานิลผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ตลาดยังจับตาการเจรจาการค้าระหว่าง จีน–สหรัฐ ในการประชุม เอเปค (APEC) ที่ยังดำเนินต่อเนื่อง
ปัจจัยในประเทศ:
เรายังคาดหวังผลบวกจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเริ่มเห็นผลในเดือนพ.ย. ซึ่งน่าจะช่วยหนุนการบริโภคและความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้ฟื้นตัวขึ้น ส่วนผลประกอบการ 3Q25 ของ Real Sector ภาพรวมไม่สดใสนัก แต่หากประมาณการ EPS ปี 2025–26 ไม่ถูกปรับลดลง จะช่วยสร้างความมั่นใจต่อตลาด และเป็นปัจจัยหนุนให้ดัชนีทยอยฟื้นตัวในระยะถัดไป อีกทั้งต้องติดตามผลหลัง DELTA ถูกต่ออายุมาตรการ Trading Alert Level 1 ถึง 20 พ.ย. 68
กลยุทธ์:
เลือกลงทุนในหุ้น Domestic และ Consumption Play ที่มีแนวโน้มกำไรแข็งแรงในช่วง 2H25
หุ้นเด่นวันนี้: SCC
แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 220 บาท
- โดยกำไรปกติที่ต่ำสุดของปีนี้ผ่านไปแล้วใน 3Q25 แม้ว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังถูกกดดันจากต้นทุนแนฟทาที่สูง และ
- ธุรกิจอื่นเริ่มเข้าสู่ High season หนุนการฟื้นตัว รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมียังอยู่ในภาวะ Oversupply อีก 1 ปี แต่ SCC ยังบริหารได้ดีด้วยการ ควบคุมต้นทุนเข้ม เพิ่มสินค้ามาร์จิ้นสูง ลดหนี้ และรักษาสภาพคล่อง
- คาด EBITDA โตเฉลี่ย 8–12% ต่อปี ใน 3 ปีข้างหน้า
- แนวรับ 208//200 บาท แนวต้าน 220//230 บาท
ประเด็นสำคัญวันนี้:
- ITC กำไรสุทธิ 3Q25 812 ลบ. (+16.7% q-q, -16.8% y-y) ดีกว่าคาด 5% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น โดยรายได้โต +5.5% q-q, +6.4% y-y โดยตลาดยุโรปและอเมริกาเติบโตดี GPM ขยับขึ้นเป็น 25.4% (จาก 25% ใน 2Q25) แนวโน้ม 4Q25 ยังดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่ยังไม่เห็นผลกระทบจาก tariff คาดกำไรปี 2025 2.98 พันลบ. (-17% y-y) และปี 2026 โต +20% y-y ราคาเป้าหมาย 18 บาท แนะนำ “ซื้อ”
- CRC คาดกำไรปกติ 3Q25 1.4 พันลบ. (+4.5% q-q, -13.8% y-y) จาก SSSG ที่ติดลบ y-y กำไร 9M25 คิดเป็น 66.5% ของประมาณการทั้งปี ราคาหุ้นปรับลง 17.5% สะท้อนปัจจัยลบไปมาก ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 23 บาท
- CPN คาดกำไรปกติ 3Q25 4.4 พันลบ. (+1.9% q-q, +6.4% y-y) และจะมีกำไรพิเศษก่อนภาษีราว 760 ลบ. ส่งผลให้กำไรสุทธิ 5.0 พันลบ. ธุรกิจหลักมั่นคงจากรายได้ค่าเช่าและการควบคุมต้นทุนดี ราคาเป้าหมาย 73 บาท แนะนำ “ซื้อ”
- SIRI คาดกำไรสุทธิ 3Q25 1.06 พันลบ. (-13% q-q, -19% y-y) จากยอดโอนลดลง และปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2025–27 ลง 5–8% คาดกำไรปี 2025 3.9 พันลบ. (-20% y-y) ก่อนฟื้น +14% y-y ในปี 2026 จากการโอนคอนโดใหม่ 9 โครงการ ราคาเป้าหมายปี 2026 ที่ 1.55 บาท แนะนำ “ถือ”
- GULF คาดกำไรปกติ 3Q25 ทรงตัว q-q แต่ +41% y-y จากส่วนแบ่งกำไรของ ADVANC และโรงไฟฟ้า Jackson (CCGT 1.2GW, ถือหุ้น 49%) โดย 4Q25 คาดโมเมนตัมกำไรยังแข็งแกร่งจาก SPP margin ที่สูงและต้นทุนก๊าซลดลง และคงประมาณการกำไรปี 2025 +20% y-y ราคาเป้าหมาย 59.50 บาท แนะนำ “ซื้อ”
- SJWD คาดกำไรปกติ 3Q25 245 ลบ. (-14% q-q, -4.4% y-y) เป็นไตรมาสต่ำสุดของปี และคาดกำไรฟื้นใน 4Q25 ตามฤดูกาล หากเป็นไปตามคาด กำไร 9M25 โต +50% y-y (คิดเป็น 76% ของทั้งปี) จะคาดกำไรปี 2025 โต +49% y-y และปี 2026 โตต่อ +6% y-y ราคาเป้าหมาย 14 บาท แนะนำ “ซื้อ”






