WASH เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก เปิดตลาดที่ 6.10 บาท -1.40 บาท -18.67% จากราคา IPO 7.50 บาท/หุ้น ตั้งเป้าปี 2569-2570 ปูพรม 160 สาขา เตรียมสยายปีกสู่ภาคเหนือ – ใต้ รองรับการขยายตัวในภูมิภาค ปักธงสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ “WASH” หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการร้านสะอาดซักครบวงจรชั้นนำของไทย ภายใต้แบรนด์ “WashXpress” เข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดตลาดที่ 6.10 บาท -1.40 บาท -18.67% เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จผ่านแผนการขยายสาขาในปี 2569-2570 เพิ่ม 160 สาขา เตรียมสยายปีกสู่ภาคเหนือ-ใต้ ดันสาขาที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ (Company-Owned) ทะลุ 670 สาขา รองรับการขยายตัวในภูมิภาค ตอกย้ำกลยุทธ์การขยายธุรกิจด้วยโมเดลที่สามารถสร้างรายได้ประจำ Recurring Income โชว์ผลงานงวด 6 เดือน โตแกร่ง กวาดรายได้รวม 474 ล้านบาท กำไรพุ่ง 93% ขณะ SSSG โต 13% จากบริการใหม่ และการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ปักธงมุ่งเติบโตสู่ผู้นำร้านสะดวกซักครบวงจรของไทย ที่พร้อมปฏิวัติอุตสาหกรรม ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ทำให้การซักผ้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับชุมชน

นายกวิน กลองกระโทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า ‘WASH’ หลังประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 105,882,352 หุ้น ที่ราคาหุ้นละ 7.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนทุกกลุ่ม และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และศักยภาพการเติบโตในอนาคต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ‘WASH’ ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นปฏิวัติประสบการณ์ซักผ้าของชุมชนให้เป็นเรื่องง่าย ผ่านการสร้างสรรค์นวัตกรรมบริการที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven) เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดภายใต้แนวคิด “สะอาด สะดวก สบาย” ให้กับผู้บริโภคยุคใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงและการขยายตัวของสังคมเมืองได้อย่างลงตัว พร้อมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

“ในนามของทีมงาน WASH ทุกคน ขอขอบคุณสำหรับความเชื่อมั่นที่มอบให้เรา และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำ WashXpress เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดทุนไทย เราพร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกท่าน หัวใจของ WashXpress คือความตั้งใจที่จะเปลี่ยนการซักผ้าให้เป็นเรื่องง่าย เพื่อ ‘คืนเวลา’ และส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ผู้คน เราไม่ได้ตั้งเป้าเป็นเพียงผู้นำตลาดเพียงอย่างเดียว แต่เราปรารถนาที่จะเป็น ‘ผู้ปฏิวัติวงการ’ ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมสะดวกซักของไทย โดยทั้งหมดนี้จะดำเนินไปบนหลักการของการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนต่อทั้งธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และเราขอให้คำมั่นว่า WASH จะไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา เพื่อสร้างความสำเร็จที่มั่นคงให้แก่ทุกฝ่าย” นายกวิน กล่าว

นายชิษณุพันธ์ ตั้งเฉลิมกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ WASH กล่าวว่า บริษัทฯ วางแผนสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดผ่านการขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพ ผ่านกลยุทธ์การขยายสาขาแบบกลุ่ม (Cluster expansion) ด้วยการเปิดสาขาใหม่ 5-10 แห่ง ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Brand Visibility) ในพื้นที่ใหม่ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและลดต้นทุนการก่อสร้าง ครอบคลุมทั้งในพื้นที่ 21 จังหวัดที่บริษัทฯ ดำเนินการอยู่แล้วซึ่งยังมีศักยภาพในการเติบโตเพิ่มเติม และการรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ที่ยังไม่มีการให้บริการ (Untapped Market) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคใต้ เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่ที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง เพิ่มอีกอย่างน้อย 240 แห่งภายในสิ้นปี 2570 แบ่งออกเป็นสองระยะ คือ การเปิดสาขาใหม่จำนวน 80 แห่งภายในปี 2568 และตามด้วยการเปิดสาขาใหม่อีกไม่น้อยกว่า 160 แห่งในช่วงระหว่างปี 2569 ถึง 2570 โดยมุ่งเน้นขยายสาขาในรูปแบบที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเอง (Company-Owned) โดยตั้งเป้าสาขาที่บริษัทเป็นเจ้าของและบริหารจัดการเองทะลุ 670 สาขา ภายในปี 2570 ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการได้อย่างเต็มที่ สร้างความคล่องตัวในการบริหารจัดการ และที่สำคัญคือการสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง (Recurring Income) ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกเหนือจากการเปิดสาขาใหม่ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับสาขาเดิมเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มยอดขาย โดยได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 100 ล้านบาท สำหรับปี 2569-2570 เพื่อใช้ในการปรับปรุงและยกระดับ (Upgrade) ร้านสะดวกซัก WashXpress ที่มีอยู่เดิม รวมถึงการเพิ่มจำนวนเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในสาขาที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น, การเพิ่มบริการใหม่ อาทิ ซักอบพับ รับรีด, การปรับปรุงและตกแต่งร้าน (Renovation) เพื่อเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย, การขยายพื้นที่จอดรถ, และการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม เช่น ที่นั่งพักคอย และเครื่องปรับอากาศ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดและอำนวยความสะดวกสูงสุดให้แก่ลูกค้า

นางสาวสุธางค์ คนศิลป กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 2 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า WASH มี 5 จุดแข็งสำคัญ สะท้อนศักยภาพการเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่น่าจับตามอง

  1. ผลการดำเนินงานเติบโตแข็งแกร่งและพิสูจน์ได้จริง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดดในช่วงปี 2565-2567 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 33.16% ควบคู่ไปกับกำไรสุทธิที่เติบโตเฉลี่ย 18.63% ต่อปี นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนปี 2568 ยังเติบโตอย่างน่าประทับใจ และที่สำคัญคือการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังคงเป็นบวก สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักอย่างแท้จริง 
  2. กลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนและมุ่งสร้างรายได้ที่ยั่งยืน บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายสาขาในรูปแบบที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของเอง (Company-Owned Model) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 85% ของสาขาทั้งหมด ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการบริการได้อย่างเต็มที่ สร้างรายได้แบบต่อเนื่อง (Recurring Income) อย่างมั่นคง และมีแผนการใช้เงินทุนจาก IPO ที่ชัดเจนในการเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีกอย่างน้อย 160 แห่งภายในปี 2570 
  3. มีตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งและแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก ปัจจุบัน WashXpress เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของอุตสาหกรรม ด้วยจำนวนสาขากว่า 548 แห่งใน 21 จังหวัด ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ซึ่งพิสูจน์ได้จากจำนวนผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน WashXpress ที่เติบโตต่อเนื่องจนมีมากกว่า 1.5 ล้านบัญชี 
  4. ใช้เทคโนโลยีสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แอปพลิเคชัน WashXpress ไม่ได้เป็นเพียงช่องทางการชำระเงิน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) ผ่านระบบสมาชิกสะสมคะแนน และที่สำคัญคือเป็นคลังข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า (Data Analytics) ขนาดใหญ่ เพื่อนำมาวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำยิ่งขึ้น และ 
  5. อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ธุรกิจร้านสะดวกซักได้รับปัจจัยหนุนโดยตรงจากเมกะเทรนด์การขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการอยู่อาศัยเป็นครอบครัวเดี่ยวหรืออาศัยในคอนโดมิเนียม และไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ ทำให้ความต้องการบริการสะดวกซักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“WASH มีจุดเด่นที่น่าสนใจรอบด้าน ตั้งแต่ผลการดำเนินงานในอดีตที่พิสูจน์แล้วว่าเติบโตได้จริง มีสถานะทางการเงินและกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง ไปจนถึงกลยุทธ์ในอนาคตที่ชัดเจนและสอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด การระดมทุนผ่าน IPO ครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการเติมเชื้อเพลิงเร่งการเติบโต และตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับนักลงทุนที่เล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจร้านสะดวกซัก การลงทุนในหุ้น WASH คือโอกาสในการร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจที่บริหารจัดการโดยทีมงานมืออาชีพ ที่พร้อมจะนำพาธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวสุธางค์ กล่าว

- Advertisement -