ยังไร้ปัจจัยใหม่ๆ นักลงทุนรอดูผลประกอบการ
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 226 จุด (-0.48%) ถูกกดดันจากหุ้นในกลุ่ม Health รวมไปถึงแรงกดดันจากการปิดหน่วยงานสหรัฐฯ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 0.19% หลังจากกลุ่ม OPEC+ ตัดสินใจระงับการเพิ่มกำลังการผลิต
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯ ประกาศตัวเลข ISM ภาคผลิตที่ระดับ 48.7 ต่ำกว่า Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 49.4 สะท้อนถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ และกำลังเข้าสู่ภาวะหดตัว แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนดูจะไม่ถึงให้น้ำหนักมากนักเพราะตลาดพันธบัตรอย่าง Bond Yield กลับทรงตัว และค่าเงิน Dollar กลับปรับขึ้นแข็งค่า บ่งชี้มุมมองเชิงบวกต่อสหรัฐฯ ในขณะเดียวกันทำให้เงินบาทกลับมาอ่อนค่าทดสอบระดับ 32.5 บาท /ดอลลาร์สหรัฐฯ ดีกับกลุ่มส่งออกและท่องเที่ยว โดยเฉพาะท่องเที่ยวกำลังเข้าสู่ช่วง High Season สำหรับนักลงทุนในสหรัฐฯประเมินว่าช่วงนี้หันไปให้น้ำหนักกับปัจจัยผลประกอบการและข่าวสารรายตัวอย่าง วานนี้มีรายงานว่าทาง Amazon ได้จับมือกับ OPEN AI ในการจัดหา GPU จาก NVIDIA ข่าวดังกล่าวทำให้ราคาหุ้น Amazon , NVIDIA +4%, +2.2% ตามลำดับ
เมื่อกลับมาที่ปัจจัยในประเทศยังไร้ปัจจัยใหม่ วานนี้ SET INDEX ปิดแทบจะทรงตัว (-0.05%) พร้อมกับการขายของนักลงทุนสถาบันราว 1.9 พันล้านบาทเมื่อประกอบกับเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่า จึงเน้นระมัดระวังการกลับมาขายของนักลงทุนต่างชาติ ในขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางรัฐบาลเตรียมจะช่วยแก้หนี้ประชาชนด้วยการตั้ง AMC ซื้อหนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาท มองดีกับหุ้นในกลุ่มอิงการบริโภคจากสภาพคล่องประชาชนที่จะมากขึ้น
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1300 – 1320 ตลาดยังไร้ปัจจัยใหม่ และนักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ 3Q25 ที่จะทยอยรายงานออกมาจากนี้ หากดีกว่าคาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดหุ้น ในเชิงกลยุทธิ์การลงทุน เน้นเลือกเป็นรายตัวที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผสานกับได้ประโยชน์จากภาครัฐ อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL CPAXT) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) การเงิน (MTC SAWAD) อสังหาฯ (AP SPALI) ส่งออก (ITC TU)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
ITC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 20.50 บาท)
ปรับแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” และปรับไปใช้มูลค่าเหมาะสมปี 26 แทนที่ 20.4 บาท (18XPER’26E) มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่ออกมาดีกว่าคาดเล็กน้อย เกิดจากยอดขายในกลุ่มขนมสัตว์เลี้ยง (Pet Treats) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้สัดส่วนสินค้าในกลุ่ม Premium มีสัดส่วนสูงถึง 55%
MINT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท)
ประเมินกำไรปกติใน 3Q25 ที่ 2.9 พันล้านบาท (+10% YoY, -15% QoQ) อ่อนแอ QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เติบโต YoY แข็งแกร่ง หนุนจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงราว 600 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมคาดทรงตัว 4.1 หมื่นล้านบาท (+1% YoY, -3% QoQ) จากธุรกิจโรงแรมที่มีฐานสูง









