GCAP GOLD เตือนแรง! จีนเปลี่ยนเกมภาษีทอง แนะทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัวแถว 60,300 / 59,800 บาท

บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD ชี้ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันหลังจีนยกเลิกมาตรการสนับสนุนภาษีทองคำ กระทบต้นทุนพุ่ง แนะจับตากองทุนรายใหญ่กลับเข้าซื้อสุทธิในรอบ 10 วัน มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ หลังผ่านช่วงเทขายหนักสุดในรอบทศวรรษฝ่ายวิเคราะห์แนะกลยุทธ์ทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัวบริเวณ $3,950 – $3,915 หรือราคาทองคำไทยอยู่ประมาณ 60,300 / 59,800 บาท 

นางสาวอารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ได้รับแรงกดดันรอบใหม่ หลังรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการ อุ้มภาษีทองคำที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา โดยกฎใหม่ที่มีการบังคับใช้สำหรับผู้ค้าปลีกที่ซื้อทองผ่าน Shanghai Gold Exchange (SGE) จะไม่สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาหักภาษีตอนขายทองได้อีก 

ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว ส่งผลให้ต้นทุนทองคำในประเทศจีนสูงขึ้นทันที อาทิ ทองคำแท่ง, เหรียญ และเครื่องประดับ ซึ่งอาจทำให้ความต้องการทองคำในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดบริโภคทองที่ใหญ่ที่สุดของโลก ชะลอตัวลงในระยะสั้น

อย่างไรก็ตามราคาทองคำในตลาดโลกได้ผ่านช่วงเวลาของการ เทขายหนักสุดในรอบกว่าทศวรรษหลังจากนักลงทุนพากันขายทำกำไรจากระดับสูงสุดที่ $4,380 รวมถึงการไหลออกของเม็ดเงินจากกองทุน ETF และความคลี่คลายจากการเจรจาทางการค้าสหรัฐฯ – จีน 

 และล่าสุดทางกองทุนทองคำขนาดใหญ่เริ่มกลับมาลงทุนในตลาดทองคำครั้งแรกในรอบกว่า 10 วัน รวมมูลค่าภายในวันเดียวกว่า 500 ล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้ออีกครั้ง หลังจากที่ราคาทองคำเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น พร้อมกันนี้กลุ่มนักลงทุนเชิงกลยุทธ์หรือ CTAs ได้ทยอยลดสถานะขายลง จนเหลือเกือบเป็นกลาง และนักลงทุนสถาบันรายใหญ่ยังคงถือสถานะซื้อ (Long) อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในทองคำที่ยังไม่หายไปจากตลาด ถึงแม้ว่าราคาจะเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้านี้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD  ประเมินว่า ทองคำอาจเข้าสู่ช่วงสะสมพลังรอบใหม่ ก่อนเตรียมตั้งหลักเพื่อฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะกลางสามารถทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว โดยคาดว่าทองคำจะสร้างฐานบริเวณแนวรับสำคัญที่ $3,950–$3,915 (ราคาทองคำไทยอยู่ประมาณ 60,300 / 59,800 บาท) ซึ่งมีแนวต้านสำคัญที่ต้องจับตาที่ $4,160–$4,185 (ราคาทองคำไทยประมาณ 63,500–64,000 บาท) โดยหากผ่านโซนแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้คาดว่าจะเปิดทางสู่แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่ แม้จะมีปัจจัยจากประเทศจีนกดดันระยะสั้น แต่ปัจจัยหนุนหลักยังมาจาก แนวโน้มการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปี 2569, การเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องของธนาคารกลางทั่วโลก และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงตอกย้ำบทบาทของทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง

- Advertisement -