เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับลงต่อ -3.3 จุด ปิดตลาด 1295.3 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.34 หมื่นล้านบาท ปรับลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นฝั่งเอเซียเกือบทุกประเทศที่ลงในทางเดียวกัน แรงกดดันลงตามฝั่งสหรัฐที่ปรับลงแรงนำ ดัชนี Nasdaq -2% เนื่องจาก Premium Valuation และ CEO ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐให้สัมภาษณ์ระวังตลาดหุ้นสหรัฐ สหรัฐ โดย Sector หุ้นไทยที่ปรับขึ้นหลักๆคือ กลุ่ม ICT (ADVANC, TRUE) กลุ่มพลังงาน GULF, RATCH กลุ่มขนส่ง THAI กลุ่มโรงพยาบาล BDMS, BH ฯลฯในทางตรงข้ามกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลักๆคือ กลุ่มพลังงาน DELTA กลุ่มธนาคาร KBANK KTB กลุ่มค้าปลีก CPALL, HMPRO , กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC, IVL ฯลฯ
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น
BH +2.6%
หุ้นปรับขึ้นเด่น เก็งงบ 3Q25 คาดกำไรสุทธิ +4%y-y +9%q-q ทำสถิติสูงสุดใหม่ มีปัจจัยบวกรายได้เติบโตดีขึ้นจากผลบวก Intensity เพิ่มขึ้นในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ นอกจากนี้ ศักยภาพรักษาโรคที่มีความซับซ้อนด้วยนวัตกรรมขั้นสูง ทำให้ลูกค้าของ BH มีความอ่อนไหวต่อราคาน้อย รวมทั้งเด่นในการบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ขณะที่ผู้ป่วยไทยปี 2025F น่าจะกลับมาเด่นกว่าปกติช่วง 4Q25F หลังปีนี้ โรคไข้หวัดระบาดช้ากว่าปีปกติ โดย BH มี Valuation จูงใจ อิงราคาหุ้นซื้อ-ขาย PE ปี 2025 ที่ 18 เท่าเทียบกับ PER ต่ำกว่า – 2 SD ราคาเป้าหมาย 217.0 บาท
IVL -1.7% PTTGC -6.7%
ปัจจัยลบต่อกลุ่มปิโตรเคมี ในช่วง 2H25F product spread 3Q25 (HDPE/PP 332/336 $/ton -8%/-12% q-q) และ 4Q25TD (322/304 $/ton -3%/-10% q-q) ยังลดลง q-q ต่อเนื่อง ผู้ซื้อยังชะลอการซื้อจากกังวล เศรษฐกิจได้รับผลกระทบสงครามการค้า (โดยระดับคลัง PE จีนต่ำกว่ากรอบล่างค่าเฉลี่ย 5 ปี) รวมถึงมี supply ใหม่บางส่วนกลับมาเปิดผลิต ทั้งนี้ PTTGC ลดลงแรงกว่ากลุ่มจาก แนวโน้ม 4Q25F ยังชะลอ q-q เพราะโรงกลั่นมีปิดซ่อมใหญ่ 50 วัน (12 Oct – 30 Nov) กระทบปริมาณขาย ซึ่งโอเลฟินส์ที่ฟื้นตัวจากราคา feedstock ลดลง, จีน re-stock และ โรงผลิตบางส่วนลด run ไม่พอชดเชย ในขณะที่กลุ่มปิโตรเคมีด้วยกันอย่าง SCC, IVL, IRPC เริ่มฟื้นตัวได้ q-q โดย SCC มีธุรกิจซีเมนต์ที่ออกจาก low season และเงินปันผลโตโยต้าหนุน, IVL ฟื้นตาม integrated PET spread ที่ได้ปัจจัยฤดูกาลหนุนและจีน cut run ต่อเนื่องทำให้ supply ตึงตัวขึ้น ส่วน IRPC ได้ธุรกิจโรงกลั่นที่ supply ตึงตัวค่าการกลั่นฟื้นตัวสูงกว่าปกติ หนุน
GPSC +0.63%
วันนี้รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 1,742 ลบ. (+126% y-y, -14% q-q) ดีกว่าที่เราคาด 12% แต่ใกล้เคียงตลาดคาดอย่างไรก็ตามหากถอดรายการพิเศษได้แก่ i) กำไรจากการขายหุ้น AEPL 3.03% ที่ +783 ลบ. ii) FX loss ในงบ Console ที่ -9 ลบ. iii) FX loss และ one-time item ที่แฝงอยู่ใน equity income ที่ -326 ลบ. ออกกำไรปกติจะอยู่ที่ 1,293 ลบ. ต่ำกว่าเราและตลาดคาดเล็กน้อย ขณะที่คาด 4Q25F กำไรปกติเพิ่มขึ้น y-y ทรงตัว q-q จากส่วนแบ่งกำไร CFXD ที่เข้าสู่ High season ชดเชยกับ Volume ขายไฟและไอน้ำที่ลดลง คงคำแนะนำ Trading Buy และปรับไปใช้ TP26F ที่ 45.0 บาท
ADVANC +3.3% TRUE +1.8%
หุ้นปรับขึ้นหลังรายงานงบ 3Q25 เมื่อวาน มองระยะกลาง- ยาวมีกระแส AI CAPEX cycle โลกเดินหน้าต่อเนื่อง ประเมินหนุนหุ้นสื่อสารระยะกลาง-ยาว โครงข่ายที่มีจะถูกใช้งานมากขึ้น ภาวะอุตสาหกรรมเอื้อต่อการสร้างรายได้จากปริมาณใช้งานที่เพิ่ม + โอกาสขยายธุรกิจ Data Center ให้มีนัยฯขึ้นเป็น New S Curve ยังแนะนำซื้อ ADVANC ราคาเป้าหมาย 360.0 บาท และ TRUE ราคาเป้าหมาย 18.2 บาท
COSTCO19 +2.5%
หุ้น Top picks ปรับขึ้น เด่น สถิติย้อนหลัง 5 ปี ราคาหุ้นมักผ่านจุดต่ำสุดหลังผ่านเทศกาล Halloween (31 ต.ค.) ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยในเดือนพ.ย. ที่ +11.89% (เฉลี่ย 5 ปี) สะท้อนแรงหนุนเชิงฤดูกาลจากเทศกาลจับจ่ายปลายปีของสหรัฐฯ ที่ต่อเนื่องตั้งแต่ Halloween – Thanksgiving – Black Friday – Cyber Monday – Christmas – New Year Eve ซึ่งมักหนุนยอดขายสินค้าของ Costco ในช่วงปลายต.ค.–สิ้นปีให้เติบโตโดดเด่น









