SMART เร่งเครื่องโค้งสุดท้ายปี 68 โชว์ศักยภาพบริหารต้นทุน ดันมาร์จิ้น เผยงบ 9 เดือนปี 68 รายได้ 326.98 ลบ. กำไร 23.08 ลบ.
SMART เร่งเครื่องโค้งสุดท้ายปี 68 โชว์ศักยภาพโดยการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรักษามาร์จิ้น ท่ามกลางตลาดอสังหาฯ ชะลอ เดินหน้ารับเทรนด์ Green Building รักษาฐานลูกค้าเดิม ขยายฐานลูกค้าใหม่ เพิ่มช่องทางการจำหน่าย สร้างการเติบโตในระยะยาว เผยผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2568 รายได้รวม 326.98 ล้านบาท กำไรสุทธิ 23.08 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้รวม 115.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 8.92 ล้านบาท
นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 4/68 คาดว่าปริมาณการสั่งซื้อยังมีทิศทางที่ทรงตัว ด้วยปัจจัยความต้องการของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่มีปัจจัยบวกมาเป็นแรงหนุนมากนัก
ปัจจุบันสัดส่วนงานโครงการของ SMART แบ่งเป็นภาครัฐประมาณ 20% เช่นโครงการอาคารสำนักงานใหม่และการซ่อมแซมปรับปรุง ภาคเอกชนประมาณ 80% เน้นโครงการก่อสร้างแบบ Mixed Use ใหม่ๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯและปริมณฑล ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจหลักทั่วประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีองค์ประกอบหลากหลายมากขึ้น เช่น อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ (ทั้งแนวราบและแนวสูง) นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่ามีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจในวัสดุก่อสร้างที่ช่วยประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทั้งนี้บริษัทมุ่งเน้นการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรักษาผลประกอบการและความสามารถในการแข่งขันในตลาดวัสดุก่อสร้างโดยให้ความสำคัญในการรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ในตลาดทดแทนพร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายโดยมุ่งเน้นการเป็นสินค้าที่ช่วยประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวรวมถึงการจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรดซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 326.98 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 458.99 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 23.08 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 75.89 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้รวม 115.59ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 139.25 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 8.92 ล้านบาทลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 21.54 ล้านบาท
ทั้งนี้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทปรับตัวลดลงจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังชะลอตัวต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่และปริมาณคำสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างลดลงขณะเดียวกันราคาขายผลิตภัณฑ์บางรายการปรับตัวลดลงตามสภาพการแข่งขันของตลาดรวมถึงมีการปรับค่าแรงเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทเน้นการพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่องจึงทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและรักษาความสามารถในการทำกำไรได้









