KS Daily View 10.11.2025 >>> คาดว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,300–1,315 จุด จากจับตาโค้งสุดท้ายประกาศงบ 3Q25 ปัจจัยการเมืองเริ่มมีความไม่แน่นอน กรอบ SET วันนี้ 1,300–1,315 จุด แนะนำ CENTEL และ CPN

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้: มองไปข้างหน้า ด้วย SET Index ปิดสัปดาห์ที่ผ่านมายังยืนอยู่เหนือระดับ 1,300 จุด ได้ทำให้มองว่าแนวโน้มหลักของดัชนียังคงเป็นการค่อยๆ ปรับตัวขึ้น โดยการเคลื่อนไหวขยับขึ้นมาแกว่งตัวในกรอบที่สูงขึ้นจาก 1,270-1,310 จุด ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็น 1,290-1,330 จุด แต่ระยะสั้นยังคงเผชิญความผันผวนตามฤดูกาลของช่วงการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนฯ ซึ่งในสัปดาห์นี้เป็นช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการรายงานผลประกอบการ รวมถึงการประชุมครม. ในวันอังคารซึ่งวาระการประชุมสำคัญคือการอนุมัติโครงการแก้หนี้ภาคครัวเรือนโดยการให้ AMC ซื้อหนี้เสียจากสถาบันการเงิน หลังจากที่ผ่านการพิจารณาในที่ประชุมครม. เศรษฐกิจแล้วในสัปดาห์ก่อนหน้า นอกจากนี้อาจมีความคืบหน้าสำหรับมาตรการ Big Quick Win ถัดไปคือมาตรการเสริมสภาพคล่อง Soft loan ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก (SMEs) เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ด้านการเมืองในประเทศเริ่มมีความกังวลกลับมาหลังรัฐบาลขู่อาจยุบสภาหากพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเปิดสมัยประชุมหน้าวันที่ 12 ธ.ค.

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1302.91 จุด ปรับตัวลดลง -0.50% จากสัปดาห์ที่ผ่านหลังกลุ่มปิโตรเคมี,กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, และกลุ่มบริการเฉพาะกิจ ปรับตัวลดลง ในวันนี้เราประเมินว่าตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,300–1,315 จุด จากตลาดรอดูผลประกอบการ 3Q25 ที่เป็นช่วงโค้งสัปดาห์สุดท้ายของการรายงาน ประกอบกับปัจจัยการเมืองเริ่มมีความไม่แน่นอน แนะนำ CENTEL และ CPN

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

  1. ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้เข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เฟสแรก มีแนวโน้มจะได้เข้าร่วมต่อใน เฟส 2 ซึ่งอยู่ระหว่างการออกแบบระบบและจัดสรรสิทธิให้เท่าเทียม โดยหากมีผู้ไม่ใช้สิทธิภายในวันที่ 11 พ.ย. 2025 เงินดังกล่าวจะถูกนำไปรวมใช้ในเฟสใหม่ ทั้งนี้มีแนวคิดให้ผู้ที่ยังไม่เคยเข้าร่วมได้รับสิทธิ 4,000บาท ส่วนผู้เข้าร่วมเฟสแรกคงสิทธิเดิม 2,000บาท เพื่อสร้างความสมดุล โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในเดือน ธันวาคม 2025 เพื่อให้เริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่ มกราคม 2026 ผ่านงบกลางของรัฐบาล มองเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL CPAXT BJC
  1. Nvidia เปิดเผยว่าได้ขอให้ TSMC เพิ่มกำลังการผลิตชิป หลังความต้องการด้าน AI ทั่วโลกยังคงพุ่งสูงและเติบโตต่อเนื่อง โดยซัพพลายเออร์หน่วยความจำหลักอย่าง SK Hynix, Samsung Electronics และ Micron Technology ต่างเร่งขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อของบริษัท ด้าน TSMC ยืนยันว่า Nvidia ได้ร้องขอให้เพิ่มการผลิตแผ่นเวเฟอร์ และ TSMC ยังคงตั้งเป้าทำยอดขายสูงสุดใหม่ทุกปี สะท้อนความร้อนแรงของตลาดชิป AI ที่ยังไม่มีทีท่าชะลอตัว มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ DELTA
  1. GUNKUL จับมือ สแกน เอิร์ธ พาวเวอร์ (SEP)ในเครือ SCN เป็นพันธมิตรจัดจำหน่ายอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ในตลาดโซลาร์ครอบคลุมทุกภาคส่วน ตั้งแต่ครัวเรือน ชุมชน ไปจนถึงอุตสาหกรรมทั่วประเทศ โดยตั้งเป้ายอดจำหน่าย100 เมกะวัตต์ในปี 2026 และเตรียมขานรับนโยบายภาครัฐทั้ง “โซลาร์ฟาร์มชุมชน” และ “ลดหย่อนภาษีโซลาร์เซลล์”
  1. ธปท. อนุญาตให้ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ และ Non-bank สามารถร่วมลงทุนจัดตั้ง กิจการร่วมทุน (Joint Venture) กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ได้เป็นการชั่วคราว โดยให้เวลายื่นขอจัดตั้ง 2 ปี และดำเนินกิจการได้ 15 ปี เพื่อช่วยบริหารและปรับโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) อย่างยืดหยุ่น ทั้งนี้ กิจการร่วมทุนสามารถรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากทุกสถาบันการเงินได้ ไม่จำกัดเฉพาะกลุ่ม SFIs เช่นเดิม มองเป็นบวกกับกลุ่มการเงิน ธนาคาร
  1. รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศจัดการประมูลสัมปทานขุดเจาะน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกในเดือนหน้าที่จะเปิดพื้นที่ราว80 ล้านเอเคอร์ ให้เช่าขุดเจาะในวันที่ 10ธันวาคม ซึ่งเป็นการประมูลครั้งแรกจากทั้งหมด 30 ครั้งที่จะดำเนินต่อเนื่องถึงปี 2040 ตามกฎหมายภาษีที่ทรัมป์ลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนในอะแลสกา รัฐบาลจะเปิดพื้นที่ราว1 ล้านเอเคอร์ เพื่อให้เช่าขุดเจาะในวันที่ 4มีนาคมปีหน้า มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงลบเล็กน้อยกับ PTTEP จากแนวโน้มของ supply เพิ่มมากขึ้น

Daily pick

CENTEL: ราคาพื้นฐาน 42.09 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL สำหรับการลงทุนระยะยาวแม้คาดว่า CENTEL จะมีกำไรหลักใน 3Q25 ราว 40 ล้านบาท ลดลง 61% QoQ และ 78% YoY จากฤดูกาลท่องเที่ยวที่อ่อนแอ โดยธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะในมัลดีฟส์ยังขาดทุนเพิ่มจากค่าเงินบาทแข็งและต้นทุนของโรงแรมใหม่ ส่วนธุรกิจอาหารยังเติบโตแข็งแกร่ง คาดรายได้เพิ่ม 3% QoQ และ 30% YoY จากการขยายสาขาและการเติบโตของ SSSG 2% YoY เราคาดกำไรจะฟื้นในไตรมาส 4Q25 โดยเติบโตในระดับเลขหลักเดียว ขณะที่ธุรกิจโรงแรมใน มัลดีฟส์ มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยข้อมูลการจองล่วงหน้าบ่งชี้ว่า RevPar จะเติบโตประมาณ 50% YoY ทั้งนี้ การเติบโตของ RevPar ในมัลดีฟส์ส่วนใหญ่มาจากกลยุทธ์ลด ADR เพื่อกระตุ้น OCR ให้สูงขึ้น

CPN: ราคาพื้นฐาน 72.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPN จากพื้นฐานแข็งแกร่งและธุรกิจเช่าพื้นที่ค้าปลีกที่มีเสถียรภาพ สร้างรายได้กว่า 90% ของทั้งหมด ทำให้มีกระแสเงินสดแน่นอนและป้องกันความเสี่ยงเศรษฐกิจได้ดีปี 2026 จะเป็นจุดเริ่มต้นของรอบขยายตัวครั้งใหม่ หลังจากช่วงชะลอตัว 2022–2024 โดยรายได้มีแนวโน้มกลับมาเติบโตเลขสองหลัก จากการเปิดศูนย์ใหม่หลายแห่ง เช่น Central Park (ก.ย. 2025), Central Krabi (ต.ค. 2025), The Central และ NorthVille (ปี 2026) นอกจากนี้เราคาดว่า CPN จะรายงานผลกำไรออกมาที่ 5 พันล้านบาทเติบโตขึ้น 23% YoY ในขณะที่กำไรปกติคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.2 พันล้านบาทฟื้นตัวขึ้น 8%QoQ

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันจันทร์ ติดตาม รายงานสรุปความคิดเห็นของกรรมการธนาคารกลางญี่ปุ่น (Bank of Japan – BoJ) และ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (Sentix Investor Confidence)เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -4.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -5.4 จุด

วันอังคาร ติดตามยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในประเทศจีน (China FDI YTD) เดือน ต.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -10.4%

วันพุธ ติดตาม เฟดวอลเลอร์ เข้าร่วมการอภิปราย  ณ การประชุมฟินเทคของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดลเฟีย

วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมฝั่งยุโรป (EU Industrial  production) เดือน ก.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.1% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 1.1% YoY ต่อด้วยการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ (US CPI) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +3.0% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้าและตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US core CPI) ตลาดคาดที่ +3.0% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

วันศุกร์ ติดตามดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของจีน (China Industrial  production) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 5.5% YoY ชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 6.5% YoY และ ดัชนียอดค้าปลีกของจีน (China Retail sales) เดือน ต.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 3.0% YoY ปิดท้ายด้วยตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไตรมาสที่สามปี 2025 ครั้งที่สองของโซนยุโรปตลาดคาดที่ +1.3% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า

- Advertisement -