ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยไม่ค่อยเด่น
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 559 จุด (+1.2%) แรงหนุนจากความคาดหวังว่าหน่วยงานในสหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.7% คาดหวังอุปสงค์ฟื้นตัวหากหน่วยงานในสหรัฐฯ กลับมาดำเนินการ
Market Outlook
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงได้แรงหนุนจากความคาดหวังว่าหน่วยงานรัฐบาลจะกลับมาเปิดดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ เมื่อคืนยังไม่มีการรายงานแต่อย่างใด ทำให้สินทรัพย์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ตลาดหุ้นค่อนข้างทรง ตัวอย่าง Bond Yield เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ โดยคืนนี้ก็ยังไม่มีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจ แต่เมื่อคืนหน่วยงาน ADP ออกมาระบุว่าภาคเอกชนลดการจ้างงานเฉลี่ย 1.1 หมื่นรายในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความเปราะบางของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ก็เป็นที่น่าจับตาว่าหากหน่วยงานในสหรัฐฯ กลับมาเปิดทำการก็อาจจะเผชิญกับตัวเลขที่อ่อนแอ แต่ตลาดอาจมองเป็นบวกจากความคาดหวังจะลดดอกเบี้ยของ FED เมื่อกลับมาที่ปัจจัยในประเทศจะพบว่ายังไม่มีปัจจัยอะไรที่มีนัยสำคัญ นอกเหนือจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน 3Q25 ทำให้วานนี้ SET INDEX ปิด -0.4% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางราว 3.2 หมื่นล้านบาท ในส่วนของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนวานนี้ มีหุ้นขนาดใหญ่ทยอยรายงานผลประกอบการ ได้แก่ CPAXT พบว่ากำไรสุทธิ -5%YoY -19%QoQ ต่ำกว่าคาด 15% จากกำไรขั้นต้นที่ลดลง ICHI รายงานกำไร +0.3%YoY +15%QoQ แต่ดีกว่าคาดการณ์ราว 7% พร้อมกับกำไรปกติสูงสุดในรอบ 6 ไตรมาส TIDLOR รายงานกำไรสุทธิขยายตัว 42%YoY และสูงกว่า Consensus ประเมินไว้ 8% แต่สำหรับ CPAXT ที่กำไรค่อนข้างย่ำแย่มองเป็นแรงกดดันไปยัง CPALL
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1,285 – 1,305 ตลาดหุ้นไทยยังถูกจำกัด Upside ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ย่ำแย่หลังรายงานผลประกอบการช่วงหลัง ผิดจากที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้ ผสานกับหุ้นที่เป็นความหวังอย่างในกลุ่มค้าปลีกทำผลการดำเนินงานได้ไม่ดี ซึ่งอาจเป็นจากเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวที่หายไป แม้สหรัฐฯ จะมีข่าวดีเรื่องการกลับมาเปิดหน่วยงานก็ตาม ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกเป็นรายตัวในหุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะ อาทิ (SCB) ปันผลเด่นและราคาหุ้นไม่แพง, TACC กำไรเด่นพร้อมปันผลสูง, ICHI กำไรดีกว่าคาดการณ์ รวมไปถึงกลุ่มที่ Laggard อย่าง MINT, CPN, AMATA
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
ICHI (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 13.90 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 358 ล้านบาท (+0.3%YoY, +15%QoQ) ดีกว่าที่เราและ BB Consensus คาด 7% และมีกำไรปกติสูงที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 13.90 บาท เรายังคงมองเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจระดับ 8%-9% คาดแนวโน้มยอดขายและกำไรปกติโต YoY ใน 4Q25 หนุนจากมาตรการคนละครึ่งพลัสและสภาพอากาศที่กดดันน้อยลง แม้ว่าตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศช่วง 8M25 หดตัว 3%YoY จากสภาพอากาศและกำลังซื้อผู้บริโภค
AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
แนวโน้มผลประกอบการงวด 3Q25 ที่คาดเห็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 28%YoY, 603%QoQ มาอยู่ที่ระดับ 983 ล้านบาท ได้รับผลดีจากการเริ่มโอนนิคมอมตะชลบุรี 2 (บ้านบึง) ที่ทำให้มียอดโอนรวมในไตรมาสนี้กว่า 676 ไร่ เทียบกับ 452 ไร่ใน 3Q24 และ 2Q25
