บล.พาย
GFPT: GFPT PCL.
3Q25 มีกำไรสุทธิทะลุ 700 ล้านบาท
เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 13.4 บาท มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่ออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ โดยมีกำไรสุทธิ 715 ล้านบาท ได้รับผลดีจากต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 20% ซึ่งมาช่วยชดเชยรายได้ที่ปรับตัวลดลงตามปริมาณการส่งออกไก่และราคาไก่ในประเทศ สำหรับแนวโน้มช่วง 4Q25 ในแง่กำไรขั้นต้นอาจจะลดลงเล็กน้อยจาก 3Q25 หลังราคาข้าวโพดในเดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. แต่ยังจะได้รับชดเชยจากรายได้ที่คาดว่าจะโตหลังปัญหาขาดแคลนแรงงานเริ่มคลี่คลาย ทั้งนี้เราปรับกำไรปี 25 เล็กน้อยเป็น 2,611 ล้านบาท
3Q25 กำไรสุทธิ 715 ล้านบาท (+32%YoY, +11%QoQ)
- GFPT รายงานกำไรสุทธิงวด 3Q25 สูงถึง 715 ล้านบาท (+32%YoY, +11%QoQ) หากไม่รวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติที่ 710 ล้านบาท (+26%YoY ,+7%QoQ) ดีกว่าที่เราคาดไว้ 5% มีปัจจัยบวกจากต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ปรับตัวลดลง ทั้งราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลือง ทำให้อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 20% สูงเป็นสถิติของบริษัท
- รายได้ที่ 4,741 ล้านบาท (-6%YoY,-3%QoQ) ลดลงจากผลกระทบของการขาดแคลนแรงงานกัมพูชาในช่วงต้นไตรมาส ทำให้การส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 7,900 ตัน ลดลงจาก 9,500 ใน 3Q24 และ 8,500 ตัน ใน 2Q25 รวมกับราคาเนื้อไก่ในประเทศที่ลดลงเหลือเพียงประมาณ 39 บาท จากระดับ 43 บาท/กก. ใน 3Q24
- กำไรขั้นต้นที่ 20% ดีขึ้นจาก 15.5% ใน 3Q24 และ 16.7% ใน 2Q25 ได้รับปัจจัยบวกข้างต้น ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 350 ล้านบาท (-15%YoY, +2%QoQ) เทียบกับปีก่อนได้รับผลดีจากค่าขนส่ง ที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้นจาก 2Q25 เพราะมีค่าโอทีพนักงานเพิ่มเข้ามา
- ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมอยู่ที่ 113 ล้านบาท (-45%YoY, -43%QoQ) ลดลงมากจาก GFN ที่ได้รับผลกระทบจากราคาโครงไก่ปรับตัวลดลงเหลือ 11.5 บาท/กก. จากระดับ 14.5 บาท/กก. ใน 3Q24 และ 2Q25 รวมถึงผลกระทบจากการขาดแคลนแรงงานกัมพูชาที่ GFN โดยมีการรับรู้กำไรเข้ามาเพียง 0.8 ล้านบาท (-99%YoY, 99%QoQ) สำหรับส่วนแบ่งจาก MCkeys รับรู้เข้ามา 112 ล้านบาท (-25%YoY, +17%QoQ)
4Q25 คาดส่งออกฟื้น ส่วนปี 26 มีโรงเชือดใหม่ในช่วงปลายปี
ภาพรวมช่วง 4Q25 ในแง่ปริมาณการส่งออกคาดว่าจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 3Q25 หลังจากปัญหาขาดแคลนแรงงานเริ่มคลี่คลาย แต่หากเทียบกับ 4Q24 ยังต่ำกว่าเพราะปีก่อนลูกค้าสั่งไปมาก ทำให้ยังมีสต๊อกเดิมอยู่ ขณะที่ในแง่ต้นทุนคาดเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นใน ส่วนของราคาข้าวโพด ทำให้ในแง่อัตรากำไรขั้นต้นช่วง 4Q25 อาจจะเห็นการลดลงจาก 3Q25 แต่จะสูงกว่า 4Q24 ค่อนข้างมาก ทำให้กำไรในช่วง 4Q25 ยังมีโอกาสเติบโตแรงเมื่อเทียบกับปีก่อนได้ สำหรับโรงเชือดไก่แห่งใหม่คาดว่าจะเสร็จในช่วงปลายปี 26 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการเชือดไก่ขึ้นมาอีก 1 เท่าตัวจาก 150,000 ตัว/วัน ในปัจจุบัน
ปรับกำไรปี 25 อีกเล็กน้อย ส่วนปี 26 ยังคงเดิมก่อน
จากกำไร 3Q25 ที่ออกมาดีเกินคาดทำให้เราปรับกำไรปี 25 ขึ้นอีกครั้งเป็น 2,611 ล้านบาท ส่วนปี 26 เราคาดว่าผลประกอบการช่วง1H26 มีโอกาสเติบโตจาก 1H25 ได้ เพราะยังได้รับผลดีจากต้นทุนอยู่ แต่ในช่วง 2H26 ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เราจึงคงกำไรทั้งปี 26 ไว้เท่าเดิม ก่อนที่ 1,841 ล้านบาท จากผลประกอบการที่ออกมาดี เราจึงยังแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 13.4 บาท (9.1XPER 26E)







