บล.กรุงศรีฯ:
KSS Research Update
PTTGC (Buy; TP26F= 28.0)
มอง Negative sentiment จากข้อมูลในที่ประชุมนักวิเคราะห์
i) บริษัทอยู่ระหว่างหา partner มาร่วม JV ในธุรกิจ Polyoles จากสภาวะการแข่งขันสูงในปัจจุบัน ทำให้กรณีแย่สุดอาจมีการ impairment loss ไม่เกิน 5,000 ลบ. หรือ -1.1 บาท/หุ้น
ii) บริษัทมีการปรับปรุงฐานการผลิตของ allnex มาอย่างต่อเนื่อง (ในช่วง 2023-24 ปิดไป 3 โรง) โดยยังมีแผนจะทยอยปรับโรงงานเพิ่มในอนาคต ซึ่งจะทำให้ประเด็นความกังวลการต้อง impair goodwill (non-cash) กลับมา
ซึ่งทั้ง 2 ประเด็นอาจกลบปัจจัยบวกจากเป้า core operation 2026F ฟื้นตัว จาก i) ปริมาณกลั่นน้ำมัน +18% จากไม่มีปิดซ่อมใหญ่ และปริมาณผลิตปิโตรเคมี +11% จากการปิดซ่อมลดลง ii) feed อีเทน (ต้นทุนต่ำกว่า naphtha/LPG) +6% y-y จากโรงแยกก๊าซฯของ PTT ปิดซ่อมลดลง และ iii) ค่าใช้จ่ายคงที่ของ Vencorex ที่ลดลงราว 2,400 ลบ. หลังปิดโรงงาน
เรามองระดับการซื้อขายปัจจุบันที่ PBV ราว 0.3 เท่า อาจสะท้อนความกังวลของ core operation ที่ยังอ่อนแอ และ โอกาสที่จะมี impairment ไประดับหนึ่งแล้ว (สมมติฐานให้มีการตัด goodwill ทั้งก้อนราว 7.6 หมื่นลบ. และถอด perp bond ออก ราคาปัจจุบันยังซื้อขายที่ PBV ราว 0.55 เท่า vs. SCC/ IVL ที่ 0.65/0.72 เท่า)
คงคำแนะนำ Buy บนภาพระยะยาวบริษัทเป็นหนึ่งในผู้อยู่รอดและได้ประโยชน์หลังอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเข้าสู่วงจรฟื้นตัว โดยการทยอยปรับโครงสร้างการผลิตคาดทำให้ต้นทุนคงที่ลดลง (ปัจจุบันที่สถานการณ์แข่งขันสูง Ebitda ยัง bottom out จาก 4Q24) มองการ impairment ที่หากเกิดขึ้น worst case จะทำให้ IBD/EQ เพิ่มไปที่ 0.8 เท่า ยังต่ำกว่า 2022-1H25 ที่ราว 0.9-1.1 เท่า และส่วนใหญ่เป็น non-cash ไม่ได้กระทบต่อความสามารถในการผลิตกระแสเงินสดและจ่ายคืนหนี้ คงมุมมองแนวโน้ม 2026F ฟื้นตัวจากโรงกลั่นไม่มีปิดซ่อมใหญ่ และการ rationalized ทั่วโลก ส่งให้ supply ตึงตัวขึ้น product spread ฟื้นตัว หนุนกำไรปิโตรเคมี







