FLOYD โชว์งบ 9 เดือนพุ่งแรง รายได้ทะลุเป้าปี 68 กำไรโต 223.51% พร้อมส่งบริษัทลูก Be Energy รุกตลาดโรงงานอาหาร–ยา และรีโนเวทโรงแรม หนุนโตระยะยาว
บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ประกาศผลงานงวด 9 เดือนปี 2568 เติบโตโดดเด่น โดยทำรายได้รวม 652 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 63% และกำไรสุทธิพุ่งกว่า 223% แม้สภาพเศรษฐกิจยังมีความผันผวน แต่ได้รับแรงหนุนจากงานระบบประกอบอาคารครอบคลุมหลายกลุ่ม ทั้งอาคารสำนักงาน–ที่พักอาศัย กลุ่มห้างสรรพสินค้า และงาน Data Center ที่ขึ้นแท่นดาวเด่น ตามกระแสการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของกลุ่มทุนต่างชาติในไทย เฉพาะไตรมาส 3/68 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 50% และกำไรเติบโตแรงกว่า 248% จากการส่งมอบงานหลายโครงการที่เดินหน้าได้ตามแผน
นางสาวลักษมี เลิศศุภกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานสนับสนุนธุรกิจ บริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) หรือ FLOYD ผู้นำด้านงานรับเหมางานวิศวกรรมระบบประกอบอาคาร (M&E) แบบครบวงจร ที่ให้บริการโครงการอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และงาน Data Center เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 (สิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2568) เติบโตโดดเด่น บริษัทฯ มีรายได้จากงานวิศวกรรมประกอบอาคารจำนวน 652.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.94% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 81.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 223.51% ตามแรงส่งของทั้งรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ หนุนให้ภาพรวมของความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร ของบริษัทฯ เติบโตเพิ่มขึ้น
ผลงานที่เติบโตแบบก้าวกระโดด มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะงาน Data Center ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย ที่มีความต้องการศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากทั้ง Big Tech และกลุ่มทุนต่างประเทศที่เลือกไทยเป็นฐานลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความต้องการของ Cloud Service, AI, E-commerce และธุรกิจดิจิทัล งาน Data Center จึงถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในปีนี้ ปีนี้บริษัทสามารถทำรายได้ ทะลุเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 650 ล้านบาทได้ตั้งแต่ก่อนไตรมาสสุดท้าย ส่งสัญญาณว่าช่วงโค้งสุดท้ายของปีจะยังคงเติบโตที่ดี พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่องเพื่อเสริม Backlog สำหรับปีถัดไป โดยมุ่งเน้นในกลุ่มลูกค้าหลัก โครงการอาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า โรงงาน และงาน Data Center รุกตลาดใหม่ ขานรับ เมกะเทรนด์ “ท่องเที่ยว–อาหาร–ดิจิทัล”
FLOYD เดินหน้าขยายฐานรายได้ระยะยาวผ่านบริษัทลูก Be Energy เพื่อรุก 2 กลุ่มธุรกิจที่กำลังเติบโตสูงในประเทศไทย และสอดคล้องกับเมกะเทรนด์สำคัญ ได้แก่ “อาหาร–สุขภาพ” และ “ท่องเที่ยว” ได้แก่
1.โรงงานอาหารและยา (Food & Pharma Plant) ที่เติบโตต่อเนื่อง ประเทศไทยเป็นหนึ่งในฐานผลิตอาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพระดับภูมิภาค ความต้องการโรงงานใหม่และการอัปเกรดมาตรฐาน GMP/HACCP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการระบบ M&E ขั้นสูง เช่น Cleanroom และระบบ HVAC ควบคุมคุณภาพอากาศ เติบโตตามไปด้วย Be Energy จะเข้าไปให้บริการงานระบบเฉพาะทางในตลาดที่มีดีมานด์ชัดเจนนี้
2.ตลาดรีโนเวทโรงแรม ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของท่องเที่ยวไทย ภาคท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแรง ส่งผลให้โรงแรมจำนวนมากเร่งปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ระบบปรับอากาศ–ไฟฟ้า–ดับเพลิง และงานประหยัดพลังงาน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นหลายล้านคนต่อปี บริษัท บี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จึงมีโอกาสเติบโตในตลาดโรงแรมที่กำลังรีโนเวทครั้งใหญ่เพื่อแข่งกันดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพ
กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยกระจายความเสี่ยง เพิ่มรายได้ที่สม่ำเสมอ และสร้างความมั่นคงให้กลุ่มบริษัทในระยะยาว ด้านมิติการพัฒนาองค์กร คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ FLOYD เข้าร่วมโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์ เพื่อยกระดับโครงสร้างองค์กร กระบวนการทำงาน ระบบข้อมูล และการกำกับดูแลกิจการให้สอดคล้องกับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต การเข้าร่วม Jump+ ถือเป็นก้าวสำคัญของ FLOYD ในการวางรากฐานเพื่อการเติบโตในอีก 3–5 ปีข้างหน้า เราไม่เพียงมุ่งหวังการเติบโตของรายได้ แต่ต้องการยกระดับทั้งองค์กรให้พร้อมแข่งขันในยุคที่โครงการมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น Data Center, โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และงานวิศวกรรมเทคนิคระดับสูงอื่น ๆ อีกด้วย









