กองทรัสต์ “ALLY” โชว์ผลงาน Q3/68 แข็งแกร่งต่อเนื่อง รักษาอัตราการเช่าพื้นที่สูง 93.1% จ่ายปันผล 0.11 บาทต่อหน่วย พร้อมเร่งขยายพอร์ตลงทุน 3 โครงการใหม่ เสริมศักยภาพเติบโตระยะยาว

ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล หรือ ALLY เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/68 มีรายได้รวม 396.4 ล้านบาท และกำไรจากการลงทุนสุทธิ 139.9 ล้านบาท สะท้อนความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการ แม้เผชิญภาวะตลาดที่ท้าทายและเข้าสู่ช่วง Low Season รักษาอัตราเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูง 93.1% และมีอัตราการต่อสัญญาถึง 92.8% ฟากบอร์ดฯ เคาะจ่ายปันผล 0.1100 บาทต่อหน่วย พร้อมเร่งขยายพอร์ตลงทุน 3 โครงการใหม่ เสริมศักยภาพเติบโตระยะยาว

นายกวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลไล รีท แมนเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์อัลไล หรือ ALLY เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 (กรกฎาคม-กันยายน) ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อัลไล (ALLY) ทำรายได้รวม 396.4 ล้านบาท ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) แต่เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่กำไรจากการลงทุนสุทธิทำได้ 139.9 ล้านบาท ลดลง 10.8% QoQ แต่เพิ่มขึ้น 0.7% YoY โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 กองทรัสต์มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวมประมาณ 164,890 ตารางเมตร โดยยังคงรักษาอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ในระดับสูงที่ 93.1% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานผู้เช่าและความน่าสนใจของโครงการในพอร์ต ขณะที่อัตราการต่อสัญญากับผู้เช่ารายเดิม (Retention Rate) อยู่ในระดับโดดเด่นที่ 92.8% พร้อมทั้งสามารถปรับเพิ่มอัตราค่าเช่าเฉลี่ยได้ 6.6% เมื่อเทียบกับสัญญาเดิม แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารพื้นที่เช่าอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อพิจารณาจากผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ แม้ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการเข้าสู่ช่วง Low Season ของธุรกิจ แต่กองทรัสต์ฯ ยังสามารถบริหารจัดการได้อย่างแข็งแกร่ง สะท้อนความสามารถในการรักษาผลการดําเนินงานได้อย่างมั่นคงภายใต้ภาวะตลาดที่ท้าทาย

ขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าภายใต้การบริหารของกองทรัสต์ฯ ยังคงมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสีสันให้กับกลุ่มลูกค้ารวมถึงกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย อาทิ กิจกรรม Kids & Family Club สนุกยกครอบครัว, งาน The Crystal Brew& รวมคอกาแฟและสายปาร์ตี้, กิจกรรม Workshop และ The Crystal Golf Expo 2025, รวมถึง การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน SF Grass Soccer ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้เข้าชมและผู้เช่า ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของศูนย์การค้าให้มีความน่าสนใจและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับศูนย์การค้าให้เป็น “จุดหมายปลายทางของทุกไลฟ์สไตล์” ที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้เช่าและผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง

กองทรัสต์ฯ ได้พิจารณาจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดําเนินงานในไตรมาส 3/2568 ที่อัตรา 0.1100 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Yield) อยู่ที่ 10.0% เมื่อเทียบกับราคาตลาดของหน่วยทรัสต์  ALLY ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 (4.42 บาทต่อหน่วย) โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ และกําหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยทรัสต์ (Book Closing) เพื่อสิทธิในการรับประโยชน์ตอบแทนในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 พร้อมจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 และเมื่อรวมกับการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในช่วง 9 เดือนแรกปี 2568 กองทรัสต์จะจ่ายประโยชน์ตอบแทนที่อัตรารวม 0.332 บาทต่อหน่วย 

นายกวินทร์ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา กองทรัสต์ฯ ได้เดินหน้าแผนขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ฯ ครั้งที่ 1/2568 ได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนโดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 185 ล้านหน่วย เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมใน 3 โครงการศักยภาพ ศูนย์การค้าเดอะโซน ทาวน์อินทาวน์โครงการศูนย์การค้าสายไหม อเวนิว และโครงการศูนย์การค้า ชาน แอท ดิอเวนิว ปัจจุบัน กองทรัสต์ ALLY อยู่ระหว่างยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ โดยคาดว่าการเสนอขายหน่วยทรัสต์และการลงทุนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2569 นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) ครั้งที่ 7/2568 มีมติอนุมัติแผนการปรับปรุงทรัพย์สินสําหรับอาคารบางส่วนภายในโครงการ คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ มูลค่าไม่เกิน 200 ล้านบาท โดยกองทรัสต์จะได้รับสิทธิการเช่าเพิ่มเติม 5 ปี (นับตั้งแต่ปี 2592 – 2597) เพื่อยกระดับความสามารถในการสร้างรายได้ในระยะยาว 

ทั้งนี้ กองทรัสต์ ALLY มีเป้าหมายในการขยายพอร์ตการลงทุนให้ครอบคลุม 19 โครงการ รวมพื้นที่เช่ากว่า 200,000 ตารางเมตร และสร้างรายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท มี EBITDA มากกว่า 1,000 ล้านบาท ภายในสิ้นปี 2570 โดยมุ่งเน้นการลงทุนภายใต้กลยุทธ์ “Best-in-Class” ของ ALLY ซึ่งมุ่งเน้นการลงทุนในคอมมิวนิตี้มอลล์ชั้นนำในทำเลที่มีศักยภาพสูงในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการเติบโตของประชากรและกำลังซื้อ โดยตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) สำหรับโครงการใหม่ที่ระดับ 8–10% ต่อปี เพื่อตอกย้ำศักยภาพการเป็นกองทรัสต์ประเภทรีเทลที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ และสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว

- Advertisement -