ก.ล.ต. แจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งให้บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) (NRF) แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข ที่ผ่านการตรวจสอบและสอบทานจากผู้สอบบัญชีต่อ ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินดังกล่าวต่อสาธารณชนผ่านระบบ SETLink ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568
สืบเนื่องจาก ก.ล.ต. ได้แจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 เกี่ยวกับการบันทึกบัญชีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Kairous Asia Limited (KAL) ซึ่งไม่เข้าคำนิยามของการเป็นธุรกิจตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการพิจารณาการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทย่อยราย บริษัท รีเจนเนอเรชั่น แคปปิตอล จำกัด (RCL) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของ KAL ในงบการเงินเฉพาะกิจการ ต่อมา NRF ได้แก้ไขรายการดังกล่าวและนำส่งงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) แล้ว รวมทั้งนำส่งงบการเงินงวดไตรมาส 2 ปี 2568
อย่างไรก็ดี ผู้สอบบัญชีของ NRF ได้รายงานอย่างมีเงื่อนไขต่องบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 เกี่ยวกับรายการปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยราย บริษัท โบทานี เพ็ทแคร์ จำกัด ในงบการเงินงวดดังกล่าว เนื่องจากผู้สอบบัญชีของ NRF
ไม่สามารถระบุจำนวนผลกระทบที่เป็นตัวเงินต่อรายการปรับปรุงสินค้าคงเหลือ และต้นทุนขาย รวมถึงบัญชีอื่น
ที่เกี่ยวข้องได้ เนื่องจากกลุ่มบริษัทยังไม่สามารถหาสาเหตุของผลแตกต่างจากการกระทบยอดสินค้าคงเหลือในส่วนของปริมาณได้ทั้งหมด รวมถึงยังไม่ได้จัดทำเอกสารการคำนวณต้นทุนต่อหน่วยใหม่ที่สะท้อนต้นทุนจริง
ทั้งนี้ จากการตรวจนับสินค้าคงเหลือของบริษัทย่อยดังกล่าว กลุ่มบริษัทและผู้ตรวจสอบอิสระเป็นกรณีพิเศษ พบผลแตกต่างจากยอดสินค้าคงเหลือที่ตรวจนับได้กับยอดคงเหลือในบัญชี โดย NRF ได้ปรับปรุงผลแตกต่างจากการตรวจนับสินค้าคงเหลือในงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และงวดไตรมาส 2 ปี 2568 แล้ว อย่างไรก็ตาม ผลแตกต่างบางส่วนเกิดจากการวัดมูลค่าของต้นทุนสินค้าสำเร็จรูปและสินค้ากึ่งสำเร็จรูปโดยใช้วิธีต้นทุนมาตรฐานที่มีผลแตกต่างจากต้นทุนจริง ดังนั้น การปรับปรุงผลต่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดเข้าบัญชีต้นทุนขาย โดยไม่ได้มีการปันส่วนเข้าบัญชีสินค้าสำเร็จรูป ประกอบกับการใช้ต้นทุนต่อหน่วยจากข้อมูลในระบบบัญชีก่อนการปรับปรุงผลต่างในการคำนวณรายการปรับปรุงดังกล่าว จึงไม่เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงิน
ก.ล.ต. จึงแจ้งให้ NRF แก้ไขงบการเงินในประเด็นดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง โดยให้ NRF แก้ไขงบการเงินประจำปี 2567 (ฉบับแก้ไข) งวดไตรมาส 1 ปี 2568 (ฉบับแก้ไข) และ
งวดไตรมาส 2 ปี 2568 และให้นำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผ่านการตรวจสอบและสอบทานจากผู้สอบบัญชีต่อ ก.ล.ต. รวมถึงรายงานการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 พร้อมทั้งเปิดเผยงบการเงินและรายงานฉบับที่แก้ไขต่อสาธารณชนผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink) ภายในวันที่ 18 ธันวาคม 2568









