รอติดตามผลประกอบการ NVIDIA คืนนี้ (หลังสหรัฐฯ ปิด)
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปีดลบ 498 จุด (-1.07%) นักลงทุนกังวลกับ Valuation ในหุ้นกลุ่ม AI ที่อาจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ขณะเดียวกันก็ระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ NVIDIA จะประกาศกำไรคืนนี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.07% แรงหนุนจากสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเชีย
Market Outlook
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนปรับลงต่อเนื่องแรงกดดันหลักจากหุ้น Technology (NVIDIA -2.8% MSFT -2.7% AMD -4.2% AMZN -4.4%) หลายๆ สื่อระบุว่านักลงทุนกลับมากังวลกับภาวะฟองสบู่ในหุ้นกลุ่ม Technology แต่อย่างไรก็ตามยังไม่คิดเช่นนั้น เพราะหุ้น Technology ปัจจุบัน Valuation ยังไม่ถึงกับแพงมากจนน่ากังวล (Alphabet PE 28.5x Amazon PE 31.4x Microsoft PE 35x) อาจไม่ได้ถูกมากเมื่อเทียบกับหุ้นไทยที่ 10x แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรของหุ้นกลุ่ม Technology ค่อนข้างโดดเด่นทั้ง ROE, การเติบโตของกำไรในระดับ 2 หลัก จึงมองว่าเป็นเพราะแรง Take Profit ปกติมากกว่าจะเป็นฟองสบู่ ในขณะเดียวกันเห็นการเร่งตัวขึ้นของ JP Bond Yield ซึ่งอาจหนุนให้นักลงทุนเริ่มลดการถือครองทุกๆ สินทรัพย์เพื่อนำเงินกลับ YEN ดังนั้นอาจต้องจับตาทิศทางเงินเยนว่าจะเห็นการแข็งค่าขึ้นหรือไม่ หาก YEN แข็งค่าจะยิ่งเป็นปัจจัยเร่ง Unwind Carry Trade กดดันสินทรัพย์ทั่วโลก คืนนี้นักลงทุนจะ Wait & See เพื่อรอดูผลประกอบการของหุ้น NVIDIA ที่มีกำหนดการจะรายงานหลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ หรือทราบผลอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย หาก NVIDIA รายงานกำไรดีกว่าคาดการณ์ก็จะหนุนให้ Sentiment การลงทุนในหุ้น AI กลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านปัจจัยในประเทศเมื่อวานที่ผ่านมากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 1 ม.ค. – 16 พ.ย. สะสมที่ 28.27 ล้านราย (-7.2%YoY) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอันดับแรกยังคงเป็นมาเลเซียที่ 4.05 ล้านราย อันดันสอบได้แก่จีนที่ 3.94 หากเปรียบเทียบเป็นรายสัปดาห์พบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6.89 แสนราย (-1.3%Wow) แต่นักท่องเที่ยวฟื้นตัวเล็กน้อย (+2.2%WoW) แต่อย่างไรก็ตามในภาพรวมยังคงปรับลงสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด โดยล่าสุดทางการจีนขอความร่วมมือชาวจีนงดการไปเยือนญี่ปุ่นอาจเป็นปัจจัยบวกต่อการท่องเที่ยวไทยที่จะได้ส่วนแบ่งตรงนี้
วันนี้ประเมิน SET INDEX เคลื่อนไหวในกรอบ 1255 – 1280 ยังมีแรงกดดันจากการปรับลงของตลาดหุ้นทั่วโลกประกอบกับไทยเผชิญกับการเติบโตต่ำทั้งเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียน ทำให้แม้ Valuation จะไม่แพงแต่ขาดปัจจัยสนับสนุน ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนเน้นเลือกหุ้นที่มีประเด็นหนุนเท่านั้น อาทิ โรงพยาบาล (BDMS) หนุนจากความกังวลหุ้น Tech กลุ่มค้าปลีก (CPALL) ปัจจัยบวกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมไป ถึงผลประกอบการขยายตัวดี (SCB) ปันผลสูงและราคาหุ้นไม่แพง (CPN)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
กำไรสุทธิออกมาที่ 12.1 พันล้านบาท (+10% YoY, -6% QoQ) ตีกว่าคาดราว 5% เนื่องจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL สูงกว่าคาด
CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
ปัจจัยบวกจากผลประกอบการงวด 3Q25 ที่กำไรปกติรายไตรมาสทำสถิติสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง หลังจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ธุรกิจคำเช่าได้รับผลดีจากการเปิดศูนย์เซ็นทรัล พาร์ค ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นได้แม้เป็นฤดูฝน สำหรับแนวโน้มช่วง 4Q24 คาดรายได้เห็นการเติบโตได้ต่อหลังจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีโครงการเตรียมโอนกว่า 2,000 ล้านบาท









