ASIMAR ศักยภาพแข็งแกร่ง งบ Q3 ทำกำไร 21 ลบ. โต 51.25% โกยรายได้ 253 ลบ. หนุนรายได้เติบโต 10% ตามแผน

บมจ.เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ หรือ ASIMAR โชว์ศักยภาพเติบโตแข็งแกร่ง งบไตรมาส 3/2568 ทำกำไรอยู่ที่ 21.13 ลบ. โต 51.25%  เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 โดยรายได้งานต่อเรือโตถึง 112.19% จากการรับรู้งานถึง 2 โครงการ ได้แก่ โครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ และโครงการต่อเรือลากจูงของท่าเรือพาณิชย์สัตหีบกองทัพเรือ ส่วนรายได้งานซ่อมเรือลดลงเล็กน้อย แต่ยังรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มบางส่วน หนุนรายได้ทั้งปี 2568 เติบโต 10% ตามแผน คาดการณ์ปิดปีเป็นไปตามเป้าหมาย

นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่าผลประกอบการของบริษัทในงวดไตรมาส 3 ประจำปี 2568 บริษัทมีผลกำไรสุทธิ  21.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.25% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 เป็นรายได้ที่มาจากงานซ่อมเรือ 141.20 ล้านบาท แม้รายได้จะปรับตัวลงเล็กน้อย แต่โดยภาพรวมยังถือว่าทรงตัวได้ดีเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทยังคงรักษาฐานลูกค้าไว้ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มบางส่วน 

โดยในไตรมาส 3/2568 บริษัทฯได้รับงานซ่อมเรือกลุ่มพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเรือบรรทุกน้ำมันดิบ (Tanker) และเรือบรรทุกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG Carrier) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการซ่อมบำรุงตามรอบเวลา  สำหรับสาขาสุราษฎร์ธานี มีรายได้หลักจากกลุ่มเรือโดยสาร และเรือท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้ความต้องการซ่อมบำรุงเรือโดยสารและเรือเฟอรี่สูงขึ้นตามไปด้วย รวมถึงมีรายได้จากงานวิศวกรรมก่อสร้างทางลาดท่าเทียบเรือเข้ามาเสริมในไตรมาสนี้

ด้านงานต่อเรือมีรายได้ 102.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.30 ล้านบาท หรือ 112.19% เป็นการรับรู้รายได้ของโครงการต่อเรือปฏิบัติการอุทกศาสตร์ ของกองทัพเรือ เป็นการรับรู้รายได้สะสม 92.60% ของทั้งโครงการ  นอกจากนี้ บริษัทฯยังเริ่มรับรู้รายได้จาก โครงการต่อเรือลากจูง ของท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ-กองทัพเรือ เป็นการรับรู้รายได้สะสม 5.90% ของทั้งโครงการ   

“บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นในไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 65.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.17 ล้านบาท หรือ 20.54% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 ส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสะสม 9 เดือนถึง 39.58 ล้านบาท ในปี 2568 นี้

ส่วนกรณีเรื่องการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของ บริษัท สยามลัคกี้ มารีน จำกัด ทางบริษัทฯได้มีการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของลูกหนี้ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแล้วจำนวน 9.54 ล้านบาท แล้วนั้น ซึ่งในไตรมาส 3/2568 ทางบริษัทฯพิจารณาไม่ตั้งสำรองเพิ่ม เนื่องจากได้พิจารณาผลการดำเนินงาน และสถานะทางการเงินของลูกค้ามีความมั่นคง รวมทั้งทางบริษัทฯได้ดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทฯมีความมั่นใจที่จะสามารถเก็บหนี้ได้ทั้งจำนวนในอนาคต” นายสุรเดช กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/2568 รายได้ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องโดยบริษัทมีแผนเข้าประมูลงานต่อเรือโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโครงการที่มีศักยภาพที่ ASIMAR คาดว่าจะได้งานเพิ่มเข้ามาเสริมแกร่งรายได้ให้กับบริษัท สนับสนุนเป้าหมายรายได้เติบโต 10% ตามแผน 

- Advertisement -