บล.กรุงศรีฯ:
MUFG ออกรายงาน US Economic & Market Update: What to expect now that the government has re-opened มีมุมมองหลักต่อทิศทางตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่แย่ลง จะหนุน FED เดินหน้าลดดอกเบี้ยในเดือน ธค 2025 นี้
Key Factors :
• ตลาดแรงงานสหรัฐฯ: ข้อมูลแรงงานจากแหล่งเอกชน (ADP, Revelio, Indeed ฯลฯ) บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานอ่อนแรงชัดเจน การจ้างงานใหม่ต่ำกว่า 50k ตำแหน่งต่อเดือนในช่วง ก.ย. – ต.ค. ประกอบกับการจ้างงานในธุรกิจขนาดเล็กและภาครัฐยังมีแนวโน้มอ่อนแอ การประกาศเลิกจ้างแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงหลังโควิด และแบบจำลองของ Chicago Fed ชี้ว่าอัตราว่างงานอาจขึ้นมาโซน 4.5 – 4.7% แล้ว
• มุมมองด้านเงินเฟ้อ: ด้านเงินเฟ้อ MUFG มองเงินเฟ้อสินค้ากลุ่มหลัก core goods ยังสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อ (Inflationary Pressure) จากผลกระทบของภาษีและมาตรการกีดกันการค้า (Tariffs) แต่หมวดที่มีน้ำหนักสูงอย่างรถยนต์มือสองและที่อยู่อาศัยน่าจะเริ่มผ่อนลงจากระดับอุปสงค์ที่อ่อนตัวและดอกเบี้ย Mortgage Rate ที่ยังสูง ทำให้ภาพรวมเงินเฟ้อมีแรงดึงทั้งสองด้าน
• ทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจ: ภาพการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เงื่อนไขด้านรายได้และผลกระทบจาก Government Shutdown ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การใช้จ่ายผู้บริโภคอ่อนแรง โดยเฉพาะกลุ่มรายได้ต่ำ ซึ่งเห็นได้จากดัชนีใช้จ่ายของ Bloomberg Second Measure และ Visa ที่ชะลอลงมากในเดือน ต.ค. สะท้อนความเปราะบางของการบริโภคในช่วงต้น 4Q25
• มุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบาย: เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้ม ชะลอตัวต่อเนื่อง แม้รัฐบาลกลับมาเปิดทำการ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจทางการ (NFP, CPI, PCE ฯลฯ) ล่าช้ากว่าเดิมราว 2 เดือน จนทำให้ Fed ต้องอาศัยข้อมูลภาคเอกชนและแบบจำลองมากขึ้น MUFG มองว่า “ควรมีการลดดอกเบี้ยเพิ่ม” โดยมีมุมมองว่า Fed อาจเลือกพักการลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 แทน
Strategy: เรามีมุมมองสอดคล้องกับ MUFG ว่ามีโอกาสสูงกว่าที่ตลาดคาดว่า Fed จะเดินหน้าลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับ 25 bps ลงสู่กรอบ 3.5% – 3.75% ในการประชุมเดือน ธ.ค. จากภาพตลาดแรงงานที่มีความเปราะบางสูง ขณะที่เงินเฟ้อแม้จะมีแรงกดดันระยะสั้น แต่เรามองว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ผสานกับมุมมองทิศทางการเติบโตของของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ถูกกระทบจากช่วง Government Shutdown ตามมุมมองของ MUFG เราจึงให้น้ำหนักการเดินหน้าลดดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค. ของ Fed และมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้น EM Asia และไทยในช่วงปลายปี
หุ้นเด่นแนะนำ :
1) Infra Tech GULF, ADVANC, TRUE(Alpha play)
2) Services Recovery : CENTEL, ERW, BDMS, CPALL
3) ดอกเบี้ยขาลง : MTC, KTC
4) Value & Turnaround : KTB, KBANK, PTTGC, IVL
กองทุนเด่นแนะนำ : กองทุนต่างประเทศ: จีน ( KF-CHINA, MEGA10CHINA-A) ตลาดเกิดใหม่เอเชีย (KF-EMXCH-A) อาเซียน (KT-ASEAN-A) ตลาดอินเดีย (MINDIA, KT-INDIA-A)
• กองทุนหุ้นไทย ESG (KFTHAIESG-A) (กองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี)







