เก่งหลังเกมส์
SET Index เพิ่มขึ้น 9.64 จุด (+0.76%) ปิดที่ระดับ 1,282 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.3 หมื่นล้านบาท (หุ้นปรับขึ้น 245 บริษัท และหุ้นปรับลง 194 บริษัท) ดัชนีปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ รับข่าว Nvidia ประกาศงบงวด 3Q26 ดีเกินคาด ช่วยให้ตลาดคลายกังวลกับภาวะฟองสบู่ในกลุ่มธุรกิจ AI โดยมี Sector ที่ปรับขึ้นหนุนดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE), กลุ่มสนามบินและสายการบิน (AOT, THAI, BA), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) และ กลุ่มธนาคาร (BBL, KBANK, SCB และ KTB) ส่วนหุ้นปรับลง คือ BDMS, CPAXT, TOP, SCGP และ BCP
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
DELTA (+0.93%), KCE (+2.34%) ปรับขึ้นตามหุ้นกลุ่ม Tech โลก รับข่าว Nvidia ประกาศงบงวด 3Q26 มีรายได้และกำไรทำ all time high และ สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ guidance รายได้และดีมานด์ชิป Blackwell โตแข็งแกร่ง ช่วยให้ตลาดคลายกังวลกับภาวะฟองสบู่ในธุรกิจ AI
AOT (+5.63%), BA (+4.26%), THAI (+4.44%) ปรับขึ้นเด่น คาดหวังนักท่องเที่ยวจีนเร่งตัวขึ้น หลังจีนและญี่ปุ่นมีข้อขัดแย้งทางการฑูต โดยจีนประกาศเตือนพลเยือนไม่ให้ไปเที่ยวญี่ปุ่น ล่าสุดมีรายงานข่าวระบุนักท่องเที่ยวจีนยกเลิกทริปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วกว่า 400,000 คน ในขณะที่สายการบินต่างๆ ในจีนทยอยยกเลิกเที่ยวบินในเส้นทางต่างๆ ที่เดินทางไปญี่ปุ่นแล้ว
GULF (+1.21%) วานนี้มี Analyst meeting นักวิเคราะห์ของเรามีมุมมองเป็น positive แนวโน้มผลประกอบการโตต่อเนื่องทั้งใน 4Q25F และในปีหน้า หนุนจาก 1) มี MW Growth จากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเริ่ม COD 354 MWe ในปลายปีนี, 2) เพิ่มกองเรือนำเข้า LNG จาก 50 เป็น 70 ในปีหน้า,3) ส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ยังเป็นภาพขาขึ้น และ 4) ส่วนแบ่งกำไรจาก Jackson โรงไฟฟ้าในสหรัฐเร่งตัวขึ้นจากดีมานด์ไฟฟ้าจาก data center นอกจากนี้ยังมีจิตวิทยาบวกจากโอกาสในการเข้าทำ M&A ในโครงการลงทุนใหม่ๆ
BBL (+1.27%), KBANK (+1.08%), SCB (+0.39%), KTB (+1.85%) ตลาดปรับมุมมองทิศทางดอกเบี้ยอาจจะลดลงช้าเป็นบวกกับหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากคณะกรรมการเฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณระมัดระวังในการดำเนินนโยบายการเงินเนื่องจากยังเป็นห่วงกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงในสหรัฐ (น้ำหนักเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เดือน ธ.ค. เหลือเพียง 33.8%) นอกจากนี้หุ้นกลุ่มธนาคารยังเป็นเป้าเข้าซื้อของนักลงทุนและกองทุนที่เน้นเงินปันผล (กลุ่มธนาคารให้ dividend yield เฉลี่ย 6-8%ต่อปี)
SAWAD (+3.77%) เก็งกำไรเป็นหนึ่งใน 2 ตัวเต็งคาดว่าจะได้ปรับเข้าคำนวณในดัชนี SET50 รอบใหม่คาดประกาศรายชื่อในช่วงกลางเดือน ธ.ค. นี้ และเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. ถึง 30 มิ.ย. ปีหน้า









