เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 27.41 จุด (-2.14%) ปิดที่ระดับ 1,254 จุด มูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท (หุ้นปรับลง 346 บริษัท และหุ้นปรับขึ้น 126 บริษัท) ดัชนีปรับลงจาก 1) ปรับฐานตามตลาดหุ้นโลกจากแรงขายหุ้น Tech กังวลฟองสบู่ AI, 2) ขายลดพอร์ตก่อน MSCI Rebalance ในวันจันทร์นี้ภาพเป็น net outflow และ 3) SET Index หลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน trigger ให้ robot เทขายซ้ำเติมตลาด Sector ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA, KCE), กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, BGRIM, GPSC), กลุ่มปิโตรฯ & โรงกลั่น (PTTGC, IVL, TOP) และ กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD, TIDLOR) ส่วนหุ้นปรับขึ้น คือ TTB, SCB, CPF, RATCH และ CHG
หุ้นที่เคลื่อนไหวเด่น คือ
DELTA (-6.94%), HANA (-7.39%), KCE (-3.20%) ปรับฐานแรงตามหุ้น Tech โลก วิตกตัวเลขจ้างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดกดดันเฟดชะลอลดดอกเบี้ยกระทบ Valuation หุ้นเทคโนโลยี ทำให้ความกลัวภาวะฟองสบู่ AI ยังคงอยู่ ประกอบกับวานนี้ HANA มี Analyst meeting โทนเป็นลบ
CHG (+4.23%) วันนี้มี Analyst meeting โทนการประชุมเป็น Slightly positive จาก 1) เดือน ต.ค. 25 รายได้เติบโต y-y แบบhigh single digit หนุนจากกลุ่มผู้ป่วยเงินสดเพิ่มขึ้นทั้ง OPD และ IPD, 2) สนง.ประกันสังคมอนุมัติ case ผ่าตัดกระเพาะอาหารสำหรับลูกค้า SSO แล้ว 6 เคส ทำให้ใน 4Q25 เริ่มมีหัตถการผ่าตัดกระเพาะ ช่วยหนุนรายได้ประกันสังคมเติบโตดีขึ้น และ 3) รพ. แม่สอด เริ่มมีกำไรแล้วในเดือน ก.ย. 25 จากที่ขาดทุน 13 ล้านบาทใน 2Q25 และ 8 ล้านบาทใน 3Q25 นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเราคงคำแนะนำ Buy เป้าปี 26 ที่ 2.20 บาท
AP (+0.61%) คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q25F โตดีทั้ง q-q และ y-y และคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดในปีนี้ เนื่องจากมี backlog รอโอนมากทั้ง low-rise และ Condo นอกจากนี้ยังมีโครงการ low rise ใหม่เปิดขายมากขึ้นบางส่วนโอนขายรับรู้รายได้ทันทีใน 4Q25F ผสาน AP เป็นหุ้นปันผลสูงจ่ายปันผลครั้งเดียว ทำให้ AP เป็นเป้าในการเข้าซื้อจากนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นปันผล คาดปีนี้ปันผล 0.55 บาท ให้ yield 6.4%
MTC (-3.6%), SAWAD (-5.45%), KTC (-2.7%), TIDLOR (-3.02%) ตลาดปรับลดโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% เดือน ธ.ค.เหลือต่ำกว่า 40% เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า 65% เป็นจิตวิทยาลบกดดันหุ้นในกลุ่มดอกเบี้ยขาลงโดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์









