SMD100 พลิกตลาดหุ่นยนต์ผ่าตัดไทย เปิดโมเดลเช่าใช้รายเดือน ขยายโอกาสโรงพยาบาลระดับกลาง–เล็ก
ดร.วิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์, CEO ของ SMD rise, โพสต์วิเคราะห์ตลาดหุ่นยนต์ผ่าตัดไทยปี 2026 ซึ่งได้รับการแชร์มากกว่า 83 ครั้งในกลุ่มแพทย์และผู้บริหารโรงพยาบาล สะท้อนว่า “ตลาดหุ่นยนต์ผ่าตัดไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้าง (Structural Shift)” และเปิดโอกาสใหม่ให้ผู้ประกอบการที่สามารถนำเสนอโมเดลธุรกิจนวัตกรรมได้จริง
รายงานฉบับนี้สรุปมุมมองเชิงกลยุทธ์ต่อโครงสร้างการแข่งขัน และตำแหน่งของ SMD rise ในฐานะผู้เสนอโมเดลใหม่ที่เข้ากับทิศทางโลก (CapEx → OpEx Transformation)
1. ตลาดเริ่มแตกตัวหลังยุคผูกขาดยาวนาน
• ผู้นำตลาดรายเดิมที่ครองส่วนแบ่งเกือบทั้งหมดในรอบหลายสิบปี ลดราคาจาก 120 ล้านบาท → 80 ล้านบาท
• สัญญาณนี้ตีความได้ว่าเป็น Defensive Strategy เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด
• ผลที่ตามมาคือ Margin Compression ของผู้เล่นเดิม และเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นใหม่เข้ามาได้เร็วขึ้น
Investor Note: การเริ่ม “ลดราคาเชิงโครงสร้าง” ของผู้นำตลาดคือปัจจัยชี้ชัดว่าอุตสาหกรรมกำลังเข้าสู่ช่วง Disruption รอบใหม่
2. ผู้ท้าชิงจากจีน – ราคา 60 ล้านบาท พร้อมแพ็กเกจแถมเต็มระบบ
• ขายแล้ว 2 เครื่องในประเทศไทย
• จุดขายคือ ราคาต่ำกว่า + มูลค่ารวมที่มากกว่า (Value-Loaded Package)
• ผู้เล่นรายนี้ดึงดูดโรงพยาบาลที่ต้องการผลตอบแทนต่อเงินลงทุน (ROI) ที่ชัดเจนขึ้น
Investor Note: เทรนด์ “Cost-Disruptive Competitors” จากจีนเริ่มเกิดในอุปกรณ์แพทย์มูลค่าสูง และตลาดเริ่มตอบรับ
3. SMD rise เปิดโมเดลใหม่: Subscription-Based Surgical Robotics
จุดพลิกเกมครั้งสำคัญของอุตสาหกรรม (Industry Game Changer)
SMD rise ประกาศเปิดตัวโมเดล “เช่าใช้รายเดือน” สำหรับหุ่นยนต์ผ่าตัดจากญี่ปุ่น โดยไม่มีการลงทุนก้อนแรก (Zero CapEx)
Highlights
• ค่าเช่าเพียง 1.2 ล้านบาทต่อเดือน
• ไม่มีเงินลงทุน 60–80 ล้านบาท
• ต้นทุนโรงพยาบาล “แปลงเป็นรายเดือน” พร้อมรายได้ต่อเคสที่คำนวณได้ทันที
• ลดความเสี่ยงด้าน Depreciation, Obsolescence, Maintenance (10%/ปี)
• เปิดโอกาสให้ โรงพยาบาลระดับ Secondary Tier เข้าถึงเทคโนโลยีได้เป็นครั้งแรก
Investor Note: Why This Matters for SMD rise
• โมเดลนี้ขยายตลาดโดยตรง (Market Expansion Model)
• ดึงดีมานด์จากโรงพยาบาลที่ไม่มีงบซื้อเครื่อง
• สร้างรายได้แบบ Recurring Revenue (RRM) ซึ่งเป็นเมตริกสำคัญใน HealthTech
• เข้ากับวิสัยทัศน์ของ SMD rise ในการเป็นผู้นำ OpEx-Based Medical Ecosystem ของไทย
4. ความหมายเชิงกลยุทธ์ต่อ SMD rise (Strategic Implications)
4.1 การขยาย TAM (Total Addressable Market)
เดิมตลาดหุ่นยนต์ผ่าตัดมีผู้ซื้อจำกัด (เฉพาะโรงพยาบาลใหญ่) โมเดลของ SMD rise เปิดตลาดใหม่ทั้งหมดของโรงพยาบาลระดับกลาง–เล็ก
4.2 สร้าง Recurring Revenue ที่มั่นคง
โมเดลเช่าใช้รายเดือนช่วยให้รายได้มีความเสถียร และประเมินได้ล่วงหน้า เป็นผลดีต่อภาพรวม Valuation และ P/E ระยะยาว
4.3 Branding Positioning: “Innovator of High-Value Medical OpEx”
ช่วยผลักดัน SMD rise ให้เป็นผู้นำเทรนด์ CapEx → OpEx ในตลาดเครื่องมือแพทย์มูลค่าสูงของไทย
4.4 Alignment กับกลยุทธ์ Dual-Engine Architecture
สอดคล้องกับโครงสร้าง Core + Capital Expansion Model โดยเฉพาะการสร้างธุรกิจรูปแบบ Subscription ที่สามารถ Spin-off ได้ในอนาคต
5. แนวโน้มปี 2026–2028
• ตลาดจะขับเคลื่อนโดย TCO (Total Cost of Ownership) ไม่ใช่แค่แบรนด์
• โรงพยาบาลเริ่มมองหาโมเดล Asset-Light + Risk-Light
• เครื่องมือมูลค่าสูงอื่น ๆ (เช่น Cath Lab, Robotic Surgery, Proton Therapy Accessories) จะทยอยเข้าสู่โมเดลบริการรายเดือนเช่นเดียวกัน
Investor Outlook: SMD rise อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการขึ้นเป็นผู้นำ “OpEx HealthTech Transformation” ในประเทศไทย
สรุปสำหรับนักลงทุน
“80 ล้าน (เบอร์หนึ่ง) – 60 ล้าน (จีน) – 1.2 ล้านต่อเดือน (SMD rise)”
สะท้อนว่าโครงสร้างการแข่งขันของตลาดนี้กำลังเปลี่ยนครั้งใหญ่
SMD rise ไม่ได้แข่งขันด้วยราคาเครื่อง แต่แข่งขันด้วย โมเดลธุรกิจใหม่ ที่ขยายตลาด เพิ่มโอกาส และสร้างรายได้แบบระยะยาว–ยั่งยืน นี่คือจุดเปลี่ยน (Strategic Inflection Point) ที่ SMD rise สามารถยกระดับมูลค่ากิจการได้อย่างมีนัยสำคัญในอีก 3–5 ปีข้างหน้า









