หุ้นสหรัฐฯ เริ่มกลับมาฟื้นตัว ดีกับตลาดหุ้นไทย
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 202 จุด (+0.4%) แรงหนุนจากการปรับขึ้นของกลุ่ม Technology ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.3% รับกับการปรับลดดอกเบี้ยที่จะช่วยกระตุ้นอุปสงค์
Market Outlook
เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่ได้มีการรายงานตัวเลขของสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นแข็งแกร่ง ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี ประเมินว่าการปรับขึ้นอาจมาจากความคาดหวังเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยที่อาจปรับปรุงในเดือนธันวาคม ข้อมูลล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนัก 70% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดดอกเบี้ยซึ่งสอดคล้องกับ US Bond Yield ที่ปรับลง หุ้น Technology เมื่อคืนที่ปรับเด่นได้แก่ NVIDIA +2% Alphabet +6.3% AMD +5.5% ปัจจัยติดตามคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ Bloomberg Sonsensus คาดการณ์ไว้ที่ 0.3%MoM , ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ Bloomberc Sonsensus คาดการณ์ไว้ที 0.4%MoM สำหรับตลาดหุ้นไทย เมื่อวานนีปิดทรงตัว ประเมินว่าเป็นเพราะตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจไทยอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกปรับประมาณการลงจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่หาดใหญ่ กดดันกำลังซื้อรวมไปถึงการท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ข้อมูลระบุว่าจังหวัดสงขลามีจำนวนนักท่องเที่ยวอันดับ 11 ด้วยสัดส่วน 3.6 ล้านราย แต่มีสัดส่วน GDP มากสุดในภาคใต้ราว 2.4 แสนล้านบาท แต่เทียบกับกรุงเทพจะอยู่ที่ 5 ล้านล้านบาท (ข้อมูล ณ ปี 2019)
วันนี้ประเมินตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้น ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง DELTA ประกอบกับรัฐบาลเองออกมาตรการกระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 4.8 แสนล้านบาท ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX ที่ 1245 – 1260 นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้แรงหนุนจากความคาดหวังลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยจากเศรษฐกิจที่เสี่ยงจะเกิด Downside Risk ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เน้นเลือกหันมีปัจจัยหนุน อาที การเงิน (MTC SAWAD TIDLOR) ท่องเที่ยว (MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ธนาคารพาณิชย์ (SCB) และเช้านี้รอ ติดตามตัวเลขส่งออกไทย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 6.5%YoY แต่จะขาดดุลการค้า 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้
SCB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 146.00 บาท)
กำไรสุทธิออกมาที่ 12.1 พันล้านบาท (+10% YoY, -6% QoQ) ตึกว่าคาดราว 5% เนื่องจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงิน FVTPL สูงกว่าคาด
MTC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.00 บาท)
ผลการดำเนินงานใน 3Q25 แข็งแกร่ง กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท (+16% YoY, +5% Qod) และ NPL ratio ทรงตัวที่ 3.6% เราคงประมาณการคาดกำไรสุทธิในปี 2025 จะขยายตัว 14% ดังนั้น คาดว่ากำไรสุทธิใน 4Q25 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้ง YoY และ Q0Q หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวล้อกับสินเชื่อที่แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง









