BINANCE TH ประกาศกลยุทธ์ผู้นำปี 2026 รับมือความผันผวนของตลาด พร้อมกำหนดทิศทางการเติบโตครั้งใหม่
- ฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า ในปี 2025 จากการผลักดันความร่วมมือด้านการศึกษาและคอมมูนิตี้ทั่วประเทศ
- เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่เน้นนักลงทุน เช่น AI Sentiment และ Daily Insight พร้อมสร้างความร่วมมือเชิง กลยุทธ์กับ Bitazza, Maxbit และ The Brooker Group เพื่อยกระดับความร่วมมือในอีโคซิสเต็ม
- อีโคซิสเต็มสินทรัพย์ดิจิทัลไทยพร้อมเติบโตแบบก้าวกระโดดในปี 2026 จากปัจจัยความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบ การมีส่วนร่วมของสถาบัน และการขยายตัวของการใช้งานในโลกความเป็นจริง
BINANCE TH by Gulf Binance ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำในประเทศไทย เผยผลการดำเนินงานที่โดดเด่นประจำปี 2025 พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และแนวโน้มสำหรับปีถัดไป ประกาศจุดยืนและทิศทางสำคัญของธุรกิจ Market-Moving Briefing: นำทางความผันผวนปี 2025 ด้วยกลยุทธ์ปี 2026 ที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม” ท่ามกลางบรรยากาศตลาดคริปโตทั่วโลกกำลังเผชิญกับความผันผวนครั้งสำคัญ บริษัทเน้นย้ำว่าช่วงเวลาตอนนี้ไม่ใช่การทดสอบสำหรับอุตสาหกรรม แต่มันคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย
ตลอดปี 2025 BINANCE TH สร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยฐานผู้ใช้เพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสามารถขยายการเข้าถึงองค์ความรู้และการใช้งานคริปโตฯ ไปยังประชาชนทั่วประเทศมากกว่าแสนคนผ่านความร่วมมือด้านการศึกษาและกิจกรรมภาคสนามต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการลงนามบันทึกความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยระดับประเทศ เพื่อวางรากฐานความรู้บล็อกเชนให้กับคนรุ่นใหม่ ตลอดจนการจัดกิจกรรม Crypto 101 ร่วมกับพันธมิตรในภาคการเงินที่ช่วยสร้างสะพานเชื่อมระหว่างความรู้ทางการเงินแบบดั้งเดิมและโลกสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใต้ระบบที่มีมาตรฐานความปลอดภัยเทียบเท่าแพลตฟอร์มระดับโลกของ Binance และไม่มีเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยเกิดขึ้นตลอดทั้งปี

นายนิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล CFA, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BINANCE TH by Gulf Binance กล่าวว่า “แม้ปี 2025 ตลาดจะเผชิญหน้ากับความผันผวน แต่ถือได้ว่าปีนี้เป็นการตอกย้ำกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งของเรา ที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือความเข้าใจและการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลของผู้คนในทุกกลุ่ม ตั้งแต่นักศึกษาจนถึงสถาบันที่เติบโตแบบก้าวกระโดด (Exponential Growth) เราเห็นการขยายตัวของสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งในฐานะเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงและในฐานะสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น ความผันผวนจึงไม่ใช่จุดสิ้นสุดของวัฎจักร แต่เป็นจุดเริ่มต้นของวัฏจักรใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมสำหรับปี 2026”
BINANCE TH ยังประกาศการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ครั้งใหญ่ โดยย้ำจุดยืนในการเป็นศูนย์ซื้อขายที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นอันดับแรก (User-Centric) ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ลงทุนมองเห็นตลาดได้อย่างชัดเจนและมีข้อมูลพร้อมก่อนการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือบนหน้าแรกของแอปที่รวบรวมข้อมูลสำคัญของตลาดแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์อารมณ์ตลาดจากชุมชนโซเชียลอย่าง AI Sentiment ไปจนถึง Daily Insight ที่สรุปภาพความเคลื่อนไหวของตลาดในแต่ละวันให้เข้าใจง่ายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป บริษัทเดินหน้าเพิ่มความสนุกและการมีส่วนร่วมผ่าน All-Time High Game ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใช้ใหม่เข้าสู่ระบบนิเวศด้วยวิธีการและข้อมูลที่น่าสนใจ
อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่สำคัญเพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อในตลาดและส่งเสริมการยอมรับคริปโตฯ คือการประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Bitazza, Maxbit และ The Brooker Group ความร่วมมือเหล่านี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานของตลาด การปรับปรุงสภาพคล่องของสินทรัพย์ และการขยายโอกาสเข้าถึงการศึกษาด้านสินทรัพย์ดิจิทัลคุณภาพสูงสำหรับกลุ่มนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) ความร่วมมือเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ BINANCE TH ที่จะสร้างการเติบโตของอีโคซิสเต็มสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยร่วมกัน
ในด้านแนวโน้มสำหรับปี 2026 ดร.กร พูนศิริวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลยุทธ์และผู้อำนวยการ BINANCE TH Academy ได้สรุปปัจจัยหลัก 3 ประการที่จะขับเคลื่อนตลาด ได้แก่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกรอบกำกับดูแลในประเทศไทย การเข้ามามีส่วนร่วมของภาคสถาบันและผู้เล่นกระแสหลัก และการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Stablecoins, Tokenization และ Real-World Assets (RWA) ปัจจัยเหล่านี้จะนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าใกล้ผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น ไม่ใช่เพียงในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการชำระเงิน การเข้าถึงทางการเงิน และการแลกเปลี่ยนมูลค่าอีกด้วย
ดร.กร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปี 2026 จะเป็นปีที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของผู้คน เราคาดหวังว่าจะมีการยอมรับในวงกว้างมากขึ้น การประสานงานด้านกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้น และการ บูรณาการที่ลึกซึ้งขึ้นกับระบบการเงิน ซึ่งทั้งหมดนี้จะปรับเปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้ชาวไทยมีปฏิสัมพันธ์กับมูลค่าทางดิจิทัล”
ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงและมองไปข้างหน้าสู่ปี 2026 BINANCE TH ยังคงมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพผู้ใช้และเป็นผู้นำสินทรัพย์ดิจิทัลของประเทศไทยเข้าสู่บทถัดไป ด้วยการนำเสนอนวัตกรรม สร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีความรับผิดชอบทั่วทั้งอีโคซิสเต็ม
เกี่ยวกับ ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (BINANCE TH by Gulf Binance)
บริษัท กัลฟ์ ไบแนนซ์ จำกัด (Gulf BINANCE) คือ บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดิจิทัล แองเคอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทภายในเครือของไบแนนซ์ และบริษัท กัลฟ์ เอดจ์ จำกัด โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลจากกระทรวงการคลังของประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ก่อนที่จะเปิดให้บริการแพลตฟอร์ม BINANCE TH by Gulf BINANCE (“BINANCE TH”) ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน โดย BINANCE TH มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาภูมิทัศน์คริปโตในประเทศไทย ด้วยการสร้างการยอมรับและสนับสนุนให้เกิดการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล เน้นย้ำในการดูแลด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้ เสริมสร้างความรู้ด้านดิจิทัล และการดำเนินงานภายใต้กฏระเบียบข้อบังคับของหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศไทย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชม เว็บไซต์ https://www.binance.th/th


คำกล่าวพันธมิตร
บริษัท บิทาซซ่า จำกัด (Bitazza)

นายธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า จำกัด กล่าวว่า “บิทาซซ่า ประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับความปลอดภัย ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกรอบกำกับดูแลมาโดยตลอด การที่เราเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย รวมถึง BINANCE TH ซึ่งดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลในประเทศไทยสะท้อนถึงมาตรฐานที่เราใช้ในการคัดเลือกพันธมิตรที่สอดคล้องกับโครงสร้างกำกับดูแลภายในประเทศ
บทบาทของเราในฐานะผู้รวบรวมสภาพคล่อง (Aggregator) คือการผสานสภาพคล่องจากผู้ให้บริการระดับโลกเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับใบอนุญาตในประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้งาน โดยเฉพาะลูกค้าระดับสถาบันและลูกค้ารายใหญ่ ได้รับราคาที่แข่งขันได้ คุณภาพคำสั่งซื้อขายที่ดียิ่งขึ้น และประสบการณ์ที่ได้มาตรฐานระดับสากล
เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้มีความแข็งแกร่ง และเติบโตอย่างยั่งยืน ความเชี่ยวชาญของเราอยู่ที่การซื้อขายปริมาณมากทั้งด้านราคา ความลึกของสภาพคล่อง และความเร็วในการทำธุรกรรมให้แล้วเสร็จ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านการลิสต์เหรียญกระแสเร็วที่สุดในตลาดด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เราสั่งสมมากว่า 6 ปีในตลาดไทยที่มีความผันผวนสูง พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานในประเทศได้เข้าถึงสภาพคล่องระดับโลกภายใต้กรอบกำกับดูแลที่ปลอดภัยและมั่นคง”
บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit)

นายปกเขตร รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (Maxbit) กล่าวว่า “การร่วมมือกับ BINANCE TH ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของ Maxbit ในการผลักดันตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไทยให้เติบโตบนมาตรฐานที่สูงขึ้น ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใส โดยการเชื่อมต่อสภาพคล่องระหว่างแพลตฟอร์มจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายและมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับผู้ใช้งาน ขณะเดียวกัน Maxbit ยังคงเดินหน้าพัฒนามาตรการด้านความปลอดภัย ทั้งในมิติของระบบโครงสร้างพื้นฐาน การป้องกันภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของเราเสมอมา อีกทั้งความร่วมมือในครั้งนี้ยังช่วยให้เราสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ เทคโนโลยี และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์นักลงทุนไทยได้มากขึ้น พร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานที่เรียบง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้ในทุกขั้นตอนของการลงทุน เราเชื่อว่าการผนึกกำลังครั้งนี้ไม่เพียงสร้างประโยชน์ให้ผู้ใช้งานในปัจจุบัน แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยพัฒนาและส่งเสริมวงการสินทรัพย์ดิจิทัลไทยอย่างยั่งยืนในระยะยาว”









