บล.พาย:
TACC: T.A.C. Consumer PCL.
ปี 26 มีโอกาสเห็นสินค้าใหม่เพิ่ม
เรายังแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิม มีปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการที่ยังเห็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขายให้กับร้านกาแฟพันธุ์ไทยที่มีการขยายสาขาอย่างมาก ขณะที่ยอดขายของกลุ่ม 7-11 ยังเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนี้ในปี 26 ผู้บริหารมีการเปิดเผยว่า มีแผนลงทุนในธุรกิจอื่นเพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตได้อีกทาง ปัจจัยเด่นอีกประการคือผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดว่าผลตอบแทน ทั้งปีจะสูงถึงระดับ 10% ด้านผลประกอบการงวด 3Q25 กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 90 ล้านบาท จากการเติบโตของรายได้ในกลุ่ม Non 7-11 และจากกำไรที่ออกมาดีเราจึงปรับกำไรทั้งปี 25-26 ขึ้นจากเดิม 11%,9% ตามลำดับมาอยู่ที่ 330 ล้านบาท และ 341 ล้านบาท
3Q25 กำไรสุทธิ 90 ล้านบาท (+48%YoY, +14%Q∞Q)
- TACC มีกำไรสุทธิงวด 3Q25 ที่ 90 ล้านบาท (+48%YoY, +14%QoQ) ทำสถิติสูงสุดได้อย่างต่อเนื่อง ได้รับผลดีจากรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสาขา 7-11 และร้านกาแฟพันธุ์ไทย
- รายได้ 619 ล้านบาท (+29%YoY, +7%QoQ) มีปัจจัยบวกจากการเปิดสาขาใหม่ของทาง CPALL อีก 173 สาขาในไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงผลดีจากความนิยมบริโภคชาเขียวเพิ่ม นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากการเปิดสาขากาแฟพันธุ์ไทยที่เพิ่มขึ้นถึง 185 สาขา
- อัตรากำไรขั้นต้นที่ 32% ทรงตัวจาก 2Q25 และลดลงเล็กน้อยจาก 33 % ใน 3Q24 เกิดจากต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะเมล็ดกาแฟ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 87 ล้านบาท ใกล้เคียงกับทั้งปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี แม้รายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก
- รวมแล้วในช่วง 9M25 TACC มีกำไรสุทธิ 242 ล้านบาท (+27%YoY)
ปี 26 มีโอกาสเห็นธุรกิจใหม่
แนวโน้มในช่วง 4Q25 ผู้บริหารยังคงมองว่าไตรมาสดังกล่าวจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิมีโอกาสทำสถิติสูงสุดได้ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองที่ระมัดระวังในประเด็นดังกล่าว เนื่องจากสภาพอากาศที่มีฝนตกมากรวมถึงอากาศที่เย็นในช่วงเดือน ธ.ค. อาจจะมากดดันการขายได้แม้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น
สำหรับปี 26 ในแง่ธุรกิจที่ขายให้กับ 7-11 ยังเติบโตต่อเนื่อง แต่ในส่วนของกาแฟพันธุ์ไทยคาดจะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตได้อีกมาก เพราะมีการขยายสาขาที่มากกว่าทาง 7-11 สิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือการเพิ่มสินค้าใหม่ที่ไม่เกี่ยวกับกลุ่มเครื่องดื่ม ซึ่งผู้บริหารแจ้งว่าเพื่อเป็นการขยายฐานรายได้ให้มากขึ้น และลดการพึ่งพิง 7-11 ลง
ยังคงแนะนำ “ซื้อ”
เรายังคงมีมุมมองที่ดีกับ TACC เช่นเดิมจากการเติบโตที่ยังมีต่อเนื่อง ทั้งร้าน 7-11 และกาแฟพันธุ์ไทย โดยเรามีการปรับกำไรในปี 25-26 ขึ้นจากเดิม หลังผลประกอบการงวด 3Q25 ออกมาดี โดยเราปรับขึ้น 11% และ 9% ตามลำดับ มาอยู่ที่ 330 ล้านบาท และ 341 ล้านบาท รวมกับการ จ่ายเงินปันผลที่คาดว่าทั้งปีจะจ่าย 0.51 บาท/หุ้น คิดเป็นผลตอบแทนกว่า 10% ดังนั้นจากปัจจัยบวกข้างต้นเราจึงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 6.7 บาท (12XPER’26E)








