KS Daily View 02.12.2025 >>> ภาพต่างประเทศยังกดดัน จาก ISM manufacturing PMI ต.ค. ต่ำกว่าคาด กรอบ SET วันนี้ 1,265 – 1,280 จุด แนะนำ PTTEP และ AMATA

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง ดัชนี S&P500 ลดลง 0.53%, Nasdaq Composite ลดลง 0.38%, และ Dow Jones ลดลง 0.90% จากแรงกดดันของการปรับตัวขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลัง ISM manufacturing PMI หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่เก้า  เนื่องจากโรงงานยังคงเผชิญกับคำสั่งซื้อที่ซบเซาและราคาที่สูงขึ้น โดยเป็นผลกระทบที่ยังคงหลงเหลือจากมาตรการเก็บภาษี

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,276.57 จุดเพิ่มขึ้น +19.88 จุด (+1.58%) จากการปรับตัวขึ้นของกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, กลุ่มพลังงาน, และกลุ่มสื่อสาร ในวันนี้ เราคาด SET Index จะแกว่งตัว sideways down ในกรอบ 1,265 – 1,280 จุด จากแรงกดดันของภาพของต่างประเทศที่รายงาน ตัวเลข ISM manufacturing PMI เดือนต.ค. ต่ำกว่าที่คาดและชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้รายงานได้เปิดเผยว่า มาตรการภาษีมีผลกระทบต่อคำสั่งซื้อที่ซบเซาและราคาที่สูงขึ้น สนับสนุนการคาดการณ์ของการส่งออกของไทยในอนาคตที่คาดว่าจะชะลอตัวลง ในขณะเดียวกัน OPEC+ มีมติระงับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันใน 1Q26 ส่งผลให้ราคาน้ำมันเริ่มมีการฟื้นตัว อาจหนุนให้กลุ่มพลังงานมีการปรับตัวขึ้น ในส่วนกลยุทธ์การลงทุนยังคงมุ่งเน้นหุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะอย่าง PTTEP จากการ rebound ของราคาน้ำมัน และ AMATA ที่ได้แรงสนับสนุนของ BOI ในการเชิญชวนบริษัทต่างชาติลงทุนในประเทศไทย

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

OPEC+ มีมติระงับการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันใน 1Q26 โดยให้เหตุผลด้านปัจจัยฤดูกาล พร้อมกำหนดประชุมครั้งถัดไปวันที่ 4 ม.ค. 2026ประกอบกับสถานการณ์ตึงเครียด หลังยูเครนโจมตีโรงกลั่นและเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซีย รวมถึงการที่Caspian Pipeline Consortium ต้องหยุดส่งออกน้ำมันชั่วคราว หลังโรงกลั่นในทะเลดำถูกโจมตีด้วยโดรน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 1.3% ในคืนที่ผ่านมา มองเป็นบวกกับ PTTEP และ กลุ่มโรงกลั่น TOP SPRC BCP BSRC

ต้นทุนการขนส่งสินค้าผ่านทะเลดำเพิ่มสูงขึ้นหลังโดรนทางเรือของยูเครนโจมตีเรือบรรทุกน้ำมันสองลำที่มุ่งหน้าไปยังท่าเรือรัสเซีย ทำให้เบี้ยประกันภัยความเสี่ยงสงครามปรับขึ้น โดยอัตราประกันสำหรับเรือที่ไปท่าเรือยูเครนเพิ่มจาก 0.4% เป็น 0.5% และสำหรับท่าเรือรัสเซียเพิ่มเป็น 0.65–0.80% ส่งผลให้บริษัทประกันประเมินความเสี่ยงของการถูกโจมตีซ้ำในพื้นที่กว้างขึ้น ทั้งยังเพิ่มความกังวลว่ารัสเซียอาจตอบโต้ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกเล็กน้อยกับ PSL และ RCL

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติลดค่าไฟฟ้า Ft งวด ม.ค.–เม.ย. 2026 เหลือ 3.88 บาท/หน่วย จาก 3.94 บาท/หน่วย เพื่อบรรเทาภาระประชาชน โดยรมว.พลังงาน ระบุว่าเงื่อนไขหลายด้านเอื้อให้สามารถปรับลดได้ ในขณะเดียวกัน กพช. เห็นชอบปรับโครงสร้างราคาก๊าซใหม่ใช้ราคาเฉลี่ยก๊าซอ่าวไทยเป็นฐานสำหรับโรงแยกก๊าซ–LPGและใช้ “Pool Price” สำหรับผลิตไฟฟ้า–NGV–อุตสาหกรรม  ที่ส่งผลให้ ราคา Pool gas ปรับตัวขึ้น อาจส่งผลให้ GPM ของโรงไฟฟ้า SPP อย่าง BGRIM และ GPSC ถูกกดดันในอนาคต

BOI เปิดเผยการเยือนญี่ปุ่นระหว่างวันที่ 27–29 พ.ย. 2025 ว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมสัมมนา 450 คน พร้อมหารือผู้บริหาร 6 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ และนิสสัน รวมถึงเจรจากับบริษัทชั้นนำในหลายอุตสาหกรรม ที่มีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน อุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้าแบบ HEV/MHEV, เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI โดยรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนเต็มที่เพื่อดึงการลงทุนจากญี่ปุ่นเข้าสู่ประเทศในสาขาเหล่านี้ มองเป็นจิตวิทยาการลงทุนเชิงบวกกับ AMATA WHA

สหรัฐส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ทำสถิติสูงสุดเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนพฤศจิกายนที่ 10.9 ล้านตัน เพิ่มจาก 10.1 ล้านตันในเดือนตุลาคม โดยได้รับแรงหนุนจากอากาศเย็นลงส่งผลให้ความต้องการก๊าซเพื่อแปรสภาพพุ่งเป็นสถิติใหม่ที่ราว 18–19 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ด้านยุโรปยังเป็นตลาดหลัก รับ LNG สหรัฐถึง 70% โดยตุรกีเพิ่มการนำเข้าอย่างมาก มองเป็นบวกกับ BANPU

Daily pick

PTTEP: ราคาพื้นฐาน 127.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ PTTEP จากระดับมูลค่าที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ราว -1SD (2026 PBV 0.8x, PE 7.x) และให้ Dividend yield กว่า 7% หรือราว 8.5 บาท/หุ้น โดยยังมีโอกาสรักษาจ่ายปันผลใกล้ระดับปี 2024 ที่ 9.5 บาท/หุ้น จากฐานะการเงินแข็งแกร่ง (IBD/E เพียง 0.24x ใน 2Q25) และกระแสเงินสดอิสระที่มั่นคง ในเชิงกลยุทธ์ เราคาด PTTEP อาจ Outperform ใน 4Q25 จากแนวโน้มราคาน้ำมันที่มักปรับขึ้น 14–20% ภายใน 3–12 เดือนหลังเฟดเริ่มลดดอกเบี้ย อีกทั้ง IEA, OPEC และ EIA ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกปี 2025–2026 ขณะที่สต๊อก middle distillate ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี และฤดูหนาวจะหนุน GRM เพิ่มแรงหนุนต่อราคาน้ำมัน โดย PTTEP มีสัดส่วนยอดขายจากน้ำมันดิบราว 30% ซึ่งจะได้ประโยชน์โดยตรง

AMATA: ราคาพื้นฐาน 23.50 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ AMATA ป็นหุ้นธีมปันผลที่โดดเด่นด้วยมูลค่าถูกราว 0.7x PBV ปี 2026 และ Dividend yield ประมาณ 6–7% บริษัทมี Backlog สูงราว 25,000 ล้านบาท ทำให้การโอนที่ดินจะเร่งขึ้นตั้งแต่ 4Q25 ต่อเนื่องถึงปี 2026 โดยเฉพาะแปลงที่ชลบุรีซึ่งให้ Margin สูง พร้อมทั้งมี upside จากการปรับราคาที่ดินในนิคมต่าง ๆ ปัจจัยโครงสร้างหนุนมาจากสองปัจจัยหลักคือ China-plus-one และการลงทุน Data Center ที่เร่งตัวตามคำขอ BOI ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 90% YoY ใน 9M25 โดยอุตสาหกรรม Digital โตมากกว่า 5 เท่า ส่งผลให้ความต้องการที่ดินในนิคมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้บริหารจึงมั่นใจในเป้าขายที่ดินปี 2026 ที่ 2,000–3,000 ไร่ด้านผลประกอบการ 4Q25 คาดว่าจะโดดเด่น โดยตั้งเป้าโอนที่ดินราว 1,000 ไร่ ทำให้ทั้งปี 2025 แตะระดับ 2,000 ไร่ ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบทศวรรษ.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตาม ถ้อยคำแถลงการณ์ของประธานเฟดอย่าง Jerome Powell ในการอภิปรายกลุ่มเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของเขาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ต่อด้วยรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหภาพยุโรปครั้งสุดท้าย (EU CPI) เดือน พ.ย. โดยตลาดคาดการณ์ที่ +2.2% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.1% YoY และตัวเลขเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (EU Core CPI) ตลาดคาดการณ์ที่ +2.5% YoY เร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.4%YoY

วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการบริการของจีน (RatingDog China Service PMI) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 51.9 จุดชะลอตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.6 จุด ต่อด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.4 จุด

วันพฤหัสบดี ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation)เดือน พ.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ -0.60% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -0.76% YoY และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ +0.59% YoYเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.61% YoY ต่อด้วยการรายงานจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.16 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครัฐจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (Michigan Consumer Sentiment Prelim) เดือน ธ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 52.0 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.0 จุดต่อด้วยรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (US PCE Price Index) เดือน ก.ย. ตลาดคาดที่ 2.8% YoY

- Advertisement -