... ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 กรณีรวม 8 ราย ได้แก่ กรณีขายหุ้น AIE และ AI โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน หรือเปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น

... เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 กรณี รวม 8 ราย กรณีขายหุ้นบริษัท เอไอ เอ็นเนอจี จำกัด (มหาชน) (AIE) และบริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) (AI) โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น โดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการขายหุ้น หรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการขายหุ้นดังกล่าว โดยใช้ข้อมูลภายใน แล้วแต่กรณี โดยให้ผู้กระทำผิดชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 9,175,395 บาท ในกรณีหุ้น AIE และ 73,721,831 บาท ในกรณีหุ้น AI รวมทั้งกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 8 ราย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในปี 2564 และตรวจสอบเพิ่มเติม พบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ที่ทำให้เชื่อได้ว่า ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่จะมีการเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เวลา 17.00 น. เกี่ยวกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ปี 2564 ของ AIE และ AI ที่มีกำไรสุทธิลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาสเดียวกันของปี 2563 อันเป็นข้อมูลที่ส่งผลกระทบด้านลบต่อราคาหุ้น AIE และหุ้น AI มีการกระทำความผิดของผู้กระทำความผิด ดังนี้

กรณีหุ้น AIE ในช่วงระหว่างวันที่ 15 มีนาคม – 12 พฤษภาคม 2564 ผู้กระทำความผิด จำนวน 6 ราย

(1) นางสาวพิมพ์วรรณ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการและกรรมการของ AIE เป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้ขายหุ้น AIE โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าวในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน

(2) นายณรงค์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหารของ AIE เป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในดังกล่าว ได้ติดต่อและเจรจากับบุคคลให้ไปติดต่อซื้อหุ้น AIE ในรายการการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) จากนายนพพล ธารีรัตนาวิบูลย์ ซึ่งเป็นบุตรของนายณรงค์ และนายนพพลได้ขายหุ้น AIE ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองจำนวนมากผิดไปจากปกติวิสัย อันเป็นความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น โดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการขายหลักทรัพย์ 

(3) นายนพพล ธารีรัตนาวิบูลย์ บุตรของนายนายณรงค์ ได้รับการติดต่อขอซื้อหุ้น AIE แบบ Big Lot จากบุคคลซึ่งนายณรงค์ได้ติดต่อและเจรจาให้ และนายนพพลได้ขายหุ้น AIE จำนวนมากผิดไปจากปกติวิสัยในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายนพพล อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน

(4) นายโกวิท ธารีรัตนาวิบูลย์ ในฐานะตัวแทนของของ AI ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใน AIE เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารของ AIE เป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้ขายหุ้น AIE โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าว โดยได้ขายหุ้นของตนเองในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนางจารุณี วรกิจจานุวัฒน์ (มารดาของภรรยานายโกวิท) อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน และน่าเชื่อว่านายโกวิทได้เปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวแก่นายพงศภัค ธารีรัตนาวิบูลย์ (บุตรของนายโกวิท) และนายพงศภัคได้ขายหุ้น AIE อันเป็นความผิดฐานเปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่นโดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการขายหลักทรัพย์ 

(5) นายพงศภัค ธารีรัตนาวิบูลย์ บุตรของนายโกวิท เป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้ขายหุ้น AIE จำนวนมากผิดไปจากปกติวิสัย ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง ซึ่งน่าเชื่อว่าได้รับการเปิดเผยข้อมูลภายในจากนายโกวิท (บิดาของนายพงศภัค) อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน

(6) นางจารุณี วรกิจจานุวัฒน์ มารดาของภรรยานายโกวิท ได้ยินยอมให้นายโกวิทใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์
ของตนขายหุ้น AIE โดยอาศัยข้อมูลภายในที่นายโกวิทได้ล่วงรู้มา อันเป็นความผิดฐานช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่บุคคลอื่นในการกระทำความผิด 

กรณีหุ้น AI

ในระหว่างวันที่ 16 มีนาคม – 12 พฤษภาคม 2564 ผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย

(1) นายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงินของ AI เป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้ขายหุ้น AI โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าวในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน 

(2) นายโกวิท ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการและกรรมการบริหารของ AI เป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้ขายหุ้น AI โดยใช้ข้อมูลภายในดังกล่าว โดยได้ขายหุ้นของตนเองในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเองและที่อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของนายชลสินธุ์ วรกิจจานุวัฒน์ (น้องของภรรยานายโกวิท) อันเป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน

(3) นายชลสินธุ์ วรกิจจานุวัฒน์ น้องของภรรยานายโกวิท ได้ยินยอมให้นายโกวิทใช้บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนขายหุ้น AI โดยอาศัยข้อมูลภายในที่นายโกวิทได้ล่วงรู้มา อันเป็นความผิดฐานช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่บุคคลอื่นในการกระทำความผิด

การกระทำของผู้กระทำผิดทั้ง 8 ราย เป็นความผิดฐานขายหลักทรัพย์โดยเป็นบุคคลซึ่งรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน เปิดเผยข้อมูลภายในแก่บุคคลอื่น โดยรู้หรือควรรู้ว่าผู้รับข้อมูลอาจนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการขายหลักทรัพย์ หรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่บุคคลอื่นในการกระทำความผิด ตามมาตรา 242(1) ตามมาตรา 242(2) ประกอบมาตรา 243(1) มาตรา 244(3) มาตรา 315 ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/2 และมาตรการลงโทษทางแพ่งตามมาตรา 317/4 และมาตรา 317/5 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 แล้วแต่กรณี 

คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 8 รายดังกล่าว โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง ได้แก่ ค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ ดังนี้

(1) ให้นางสาวพิมพ์วรรณชำระค่าปรับทางแพ่งชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับและชดใช้ค่าใช้จ่ายของก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดเป็นเงินรวมทั้งสิ้น 1,076,852 บาทและกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน

(2) ให้นายณรงค์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 609,352 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 14 เดือน

(3) ให้นายนพพล ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 609,352 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน

(4) ให้นายโกวิท ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด กรณีหุ้น AIE เป็นเงินรวม 5,511,135 บาทกรณีหุ้น AI เป็นเงินรวม 9,187,421 บาท รวมสองกรณีเป็นเงินทั้งสิ้น 14,698,556 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในกรณีหุ้น AIE เป็นเวลา 28 เดือน และกรณีหุ้น AI เป็นเวลา 14 เดือน รวมสองกรณีเป็นเวลา 42 เดือน 

(5) ให้นายพงศภัค ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 759,352 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 12 เดือน

(6) ให้นางจารุณี ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 609,352 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 9 เดือน

(7) ให้นายธนิตย์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 63,815,705 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร เป็นเวลา 20 เดือน

(8) ให้นายชลสินธุ์ ชำระค่าปรับทางแพ่ง และชดใช้ค่าใช้จ่ายของ ก.ล.ต. เนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิด เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 718,705 บาท และกำหนดมาตรการห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารเป็นเวลา 9 เดือน

มาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนดจะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่งเพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่อัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติโดยไม่ต่ำกว่าอัตราที่ ค.ม.พ. กำหนด

ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งและเงินค่าชดใช้คืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง 

- Advertisement -