JCB เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในประเทศไทย เดินหน้าธุรกิจด้วยกลยุทธ์ RISE พร้อมเปิดตัวแบรนด์คอนเซปต์ใหม่ “JCB SAY HAI”

ท่ามกลางภาพรวมภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวในปี 2568 บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ยังคงเดินหน้าเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนจากผลประกอบการในช่วง 10 เดือนแรกของปีที่เติบโตต่อเนื่องทั้งในด้านจำนวนผู้ถือบัตรและยอดการใช้จ่ายรวม โดยเฉพาะการใช้จ่ายในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ซึ่งประเทศญี่ปุ่นยังคงครองแชมป์จุดหมายปลายทางยอดนิยมของผู้ถือบัตร JCB ด้วยอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจ

JCB เผยว่าในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2568

  • ยอดผู้ถือบัตรใหม่ (New Card Acquisition) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending Volume) เติบโตสวนกระแสตลาดบัตรเครดิตโดยรวมในประเทศไทย
  • ยอดใช้จ่ายต่างประเทศ (Cross-border Spending) เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยญี่ปุ่นมีการเติบโตแข็งแกร่งที่สุด

ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ JCB และความสำเร็จของกลยุทธ์ในการมอบประสบการณ์การใช้จ่ายที่มีคุณค่าและตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง

ตลาดพรีเมียมยังแรง ดันยอดใช้จ่ายโต 26%

ในกลุ่มลูกค้าพรีเมียม – บัตร JCB Ultimate – ยังคงเติบโตโดดเด่น โดยมีจำนวนผู้ถือบัตรใหม่เพิ่มขึ้นถึงสองเท่า และยอดใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับปีก่อน แรงขับเคลื่อนหลักมาจากเอกสิทธิ์พิเศษที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมของกลุ่มลูกค้า ขณะที่การเติบโตนี้สะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริโภคพรีเมียมยังคงให้ความสำคัญกับคุณค่าและคุณภาพของประสบการณ์การใช้จ่าย โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยยกระดับความสะดวกสบายและสร้างภาพลักษณ์ในชีวิตประจำวัน

ข้อมูลจากการใช้จ่ายผ่านบัตร JCB พบว่า 5 หมวดยอดนิยมที่มีมูลค่าการใช้จ่ายสูงสุด ได้แก่

  • ประกันภัย
  • ปั๊มน้ำมัน
  • ซูเปอร์มาร์เก็ต
  • ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
  • แพลตฟอร์มจองการเดินทางออนไลน์

ขณะเดียวกัน หมวดที่มีจำนวนธุรกรรมสูงสุดคือ แอปเดลิเวอรี ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ปั๊มน้ำมัน ช้อปออนไลน์ และซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหมวดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แม้ยอดซื้อต่อบิลจะลดลงเล็กน้อย แต่ความถี่ในการใช้บัตรกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนว่า JCB ได้กลายเป็นบัตรคู่ใจของผู้บริโภคในทุกวัน ไม่ใช่เพียงเวลาท่องเที่ยวต่างประเทศเท่านั้น

การเติบโตที่ขับเคลื่อนจากพลังพันธมิตร ขยายจุดรับชำระและแคมเปญครอบคลุมทุกช่องทาง

JCB เปิดเผยว่า การเติบโตของยอดใช้จ่ายในหมวดประจำวัน มาจากความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งบริษัทผู้ออกบัตรและร้านค้าหลากหลายประเภท ที่ช่วยกันขยายจุดรับชำระและจัดแคมเปญจูงใจการใช้บัตรอย่างต่อเนื่อง

ในปีที่ผ่านมา พบว่า

  • ธุรกรรมผ่านแอปเดลิเวอรี เติบโต 16%
  • ธุรกรรมในร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น 23%
  • ธุรกรรมในหมวดการเดินทางและคมนาคมเติบโตถึง 33% จากระบบทางด่วนแบบแตะจ่าย (Tap-to-Pay)

“เรายังคงมุ่งมั่นร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายประสบการณ์การชำระเงินให้ครอบคลุมทุกจุด ทุกที่ ทุกเวลา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้ถือบัตร JCB ได้รับความสะดวก ความปลอดภัย และความคุ้มค่าทุกครั้งที่ใช้บัตร” คุณยูสุเกะ มัตสุย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ญี่ปุ่นยังครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของผู้ถือบัตรไทย

ข้อมูลของ JCB ระบุว่า 5 ประเทศยอดนิยมที่ผู้ถือบัตรไทยใช้จ่ายสูงสุด ได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, ฮ่องกง และจีน โดยญี่ปุ่นยังคงครองอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีนี้ จำนวนผู้ถือบัตรไทยที่ใช้บัตรเจซีบีในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นถึง 20% ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเดินทางไปญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเพียง 7% (อ้างอิงจาก JNTO) สะท้อนถึงความนิยมในการใช้บัตร JCB ระหว่างการเดินทาง และความคุ้มค่าจากสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้จ่าย

หมวดการใช้จ่ายยอดนิยมในญี่ปุ่นได้แก่ ร้านค้าปลีก ร้านเครื่องแต่งกาย ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และร้านอาหาร โดยมีแนวโน้มเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าหรู (Luxury) มาเป็นสินค้าท้องถิ่นและของเฉพาะถิ่นมากขึ้น นอกจากนี้ หลังเดินทางกลับไทย ผู้ถือบัตร JCB ยังใช้บัตรต่อเนื่องในหมวดร้านอาหารและเดลิเวอรี แสดงให้เห็นว่า JCB ได้กลายเป็นบัตรที่อยู่ในทุกจังหวะชีวิตของผู้ถือบัตรอย่างแท้จริง

ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ RISE สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

เพื่อสานต่อความสำเร็จและสร้างคุณค่าให้กับลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย JCB เดินหน้าธุรกิจด้วยกรอบกลยุทธ์หลัก “RISE” ซึ่งประกอบด้วย:

  • R – Redefined Targeting: ขยายฐานไปยังลูกค้ากลุ่มพรีเมียม โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าทุกกลุ่ม
  • I – Impactful Branding: สร้างแบรนด์ด้วยคุณค่า เพื่อเพิ่มการรับรู้และความเชื่อมั่นในแบรนด์ JCB
  • S – Superior Privileges: มอบสิทธิประโยชน์ที่ตรงใจ ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ถือบัตร
  • E – Ecosystem Collaboration: สร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มในการใช้จ่ายที่สะดวกสบายต่อลูกค้า

เปิดตัวแบรนด์คอนเซปต์ใหม่ “JCB SAY HAI” พลังแห่งการให้ในทุกความสัมพันธ์

ภายใต้กลยุทธ์ RISE JCB เตรียมเปิดตัวแบรนด์คอนเซปต์ใหม่ “JCB SAY HAI” ที่ถ่ายทอดแนวคิดเรื่อง “พลังแห่งการให้” (The Power of Giving) ซึ่งเป็นคุณค่าหลักของแบรนด์ โดยแนวคิดนี้สื่อถึง การให้ในสามมิติ ได้แก่

  • ให้ (ภาษาไทย : Giving): มอบสิทธิประโยชน์และประสบการณ์ที่จับต้องได้
  • Hi (ภาษาอังกฤษ : Greeting & Connection): สื่อถึงความเป็นมิตรและการเข้าถึงง่ายของแบรนด์
  • はい (ภาษาญี่ปุ่น : Yes / Acceptance): ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งความใส่ใจและการบริการด้วยใจแบบญี่ปุ่น

คุณพลอยภาวัน เอี่ยมรุ่งโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารการตลาด บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภารกิจสำคัญของเจซีบีคือการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมายและส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง “ด้วยจุดยืนดังกล่าว แบรนด์คอนเซปต์ใหม่จึงสะท้อนตัวตนและจิตวิญญาณของเรา JCB คือแบรนด์ที่พร้อม ‘SAY HAI’ กับลูกค้าเสมอ พร้อมมอบโปรโมชัน เอกสิทธิ์ และประสบการณ์พิเศษในทุกการเดินทาง” 

ล่าสุดนี้ JCB ได้เปิดตัวแคมเปญ “JCB ลุ้นเปย์ไป JAPAN Season 2” ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 – 28 กุมภาพันธ์ 2569 เชิญชวนผู้ถือบัตร JCB เพียงใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 500 บาท/เซลล์สลิป ลงทะเบียนรับ 1 สิทธิ์ ลุ้นทริปญี่ปุ่น มูลค่ารางวัลละ 200,000 บาท หรือ Voucher มูลค่ารางวัลละ 5,000 บาท รวม 165 รางวัล มูลค่ารวม 3.75 ล้านบาท โดยคุณพลอยภาวัน ได้กล่าวปิดท้ายว่า “เราอยากขอบคุณผู้ถือบัตรทุกคนของเราผ่านแคมเปญนี้ และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลุ้นไปสัมผัสกับเสน่ห์ของประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นบ้านของ JCB

ผู้ที่สนใจสมัครบัตร JCB สามารถสมัครผ่าน 5 ธนาคารชั้นนำของประเทศไทย: บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์จำกัด (มหาชน), บริษัท คาร์ด เอกซ์ จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด และเคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

เกี่ยวกับ JCB

JCB เป็นแบรนด์ผู้ให้บริการชำระเงินระดับโลก และเป็นผู้ออกบัตรและรับชำระผ่านบัตรชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น JCB เริ่มดำเนินธุรกิจบัตรในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1961 และเริ่มขยายสู่ระดับโลกในปี 1981 ปัจจุบันมีเครือข่ายร้านค้าที่รับบัตรกว่า 56 ล้านแห่งทั่วโลก ปัจจุบัน JCB ให้บริการออกบัตรในหลายประเทศและภูมิภาคในเอเชีย มีจำนวนผู้ถือบัตรมากกว่า 169 ล้านราย ด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจในระดับนานาชาติ JCB ได้สร้างความร่วมมือกับธนาคาร บริษัทผู้ออกบัตร และสถาบันการเงินชั้นนำหลายร้อยแห่งทั่วโลกเพื่อขยายจำนวนร้านค้าที่รับบัตรและฐานสมาชิกบัตรของบริษัท ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการชำระเงินแบบครบวงจร JCB มุ่งมั่นที่จะมอบบริการและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าทั่วโลก

สำหรับข้อมูลด้านธุรกิจและองค์กร สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: https://www.th.jcb/th/
สำหรับข้อมูลโปรโมชันและสิทธิประโยชน์ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่: https://www.specialoffers.jcb/th/

- Advertisement -