คาด SET วันนี้ “Sideways/Up” ต้าน 1283/1286 จุด รับ 1270/1267 จุด
แรงส่งวันนี้ยังมาจากความคาดหวังเชิงบวกตลาดต่อโอกาส Fed ลดดอกเบี้ยรอบประชุม 9-10 ธ.ค. Fund Flows มี Search for Yield มายังตลาดหุ้นอาเซียนที่ปี 2025 Underperform ตลาดอื่น หุ้นเด่นนำตลาดวันนี้ i.) หุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน (เช่าซื้อเด่น ขยายจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิต) ii.) หุ้นภาคบริการ (ญี่ปุ่น-จีนตึงเครียดเพิ่ม + CCI ไทย ฟื้น 3 เดือนติด) iii.) หุ้น Big Cap พื้นฐานดีเป้าหมาย Fund Flows (ธนาคาร สนามบิน พลังงาน) ขณะที่ระวังกลุ่มไฟฟ้า (ก๊าซ NYMEX ทะลุ 5 เหรียญฯ)
Key Factors:
1.) (+) US PCE: เงินเฟ้อ Core PCE สหรัฐฯ ก.ย. 25 +2.8%y-y, +0.2%m-m ต่ำกว่าคาด + คาดการณ์เงินเฟ้อ 1 และ 5 ปี (U of Michigan) ธ.ค. 25 (ครั้งแรก) ลง 4 เดือนติด คาด Fed ลดดอกเบี้ย หนุนสินทรัพย์เสี่ยง
2.) (+) Fund Flows: Fund Flows ไหลเข้าอาเซียนที่ปีนี้ Underperform ตลอดสัปดาห์ก่อน และไทยเป็นภาพซื้อหุ้นทั้งสัปดาห์ก่อน ขณะที่เช้านี้เงินบาทแข็งค่ากรอบ 31.8-31.9 บาท หนุนจิตวิทยาบวกลงทุนบวก
3.) (+) JP – CH conflict: ความขัดแย้งญี่ปุ่น – จีนตึงเครียดขึ้น มีโอกาสเห็นมาตรการกีดกันด้านต่างๆ ระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มในลำดับถัดไปและอาจจะยาวนานขึ้น แรงส่งเพิ่มเติมต่อหุ้นภาคบริการไทย
4.) (+) TISA: ติดตามประชุม ครม. เศรษฐกิจ (8 ธ.ค.) ในส่วนมาตรการสนับสนุนการออมในประเทศ โดยเฉพาะ Thai Individual Savings Account (TISA) คาดมีโอกาสจุดตั้งต้นเงินลงทุนระยะยาวภายในรอบใหม่
5.) (*/-) TH – Cambodia conflict : ความขัดแย้งไทย – กัมพูชา กลับมาตึงเครียด เป็นประเด็นกลับมาสร้างจิตวิทยาลบตลาดระยะสั้น แต่ผลกระทบทางพื้นฐานจำกัดต่อฐานธุรกิจหุ้นเชื่อมโยงส่วนใหญ่ที่รับผลกระทบไปแล้ว
หุ้นแนะนำเลือก KTC, CENTEL, BTS และเก็งกำไร CN01
Technical Focus 8 ธ.ค. 68
คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้ : “SIDEWAY แนวต้านจำกัด 1,282/1,285 แนวรับวางที่เดิม 1,267/1,262”
ทั้งนี้แท่งเทียนปิดในลักษณะของ SMALL BLACK LINE และมีหางเกิดขึ้นที่ด้านบน หลังจากดัชนีแกว่งตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่วางไว้ก่อนหน้านี้จึงย่อตัวลงแต่ยังรักษาแนวรับเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญ EMA 10,200 D ได้ แต่ยังยืนเหนือ EMA 10, 200 D ในขณะที่เครื่องมือทางด้านเทคนิคบางเครื่องมือยังมีสัญญาณบวกระยะสั้น อาทิ MODIFIED STOCHASTIC ที่ %K ตัดขึ้นเหนือ %D จากระดับ OVERSOLD และ MACD ตัด SIGNAL LINE ขึ้นใกล้แกน 0 แต่ค่า RSI ยังต่ำกว่าระดับ 50 โดยที่ VOLUME มากกว่าค่าเฉลี่ย 5 วันเล็กน้อย ฉะนั้นจึงยังให้น้ำหนักดัชนีแกว่งตัว SIDEWAY โดยมีแนวต้านจำกัดที่บริเวณ 1,282 / 1,285 จุด (GAP / PRIOR HIGH) ส่วนโซนแนวรับวางไว้ที่บริเวณ 1,267 / 1,262 จุด (PRIOR LOW / EMA 200 D)
คำแนะนำ :
1) นักลงทุนระยะสั้นแนะนำ SELECTIVE BUY / TRADING ตามกรอบแนวรับ – แนวต้านที่กำหนด
2) นักลงทุนระยะกลาง / ยาว แนะนำ HOLD เป็นหลัก
เก็งกำไร
- BA เป้าหมาย 14.80 / 15.10 แนวรับ 14.20 จุดตัดขาดทุน 13.80
- GLOBAL เป้าหมาย 7.00 / 7.30 แนวรับ 6.60 จุดตัดขาดทุน 6.40
- TFG เป้าหมาย 4.78 / 4.90 แนวรับ 4.62 จุดตัดขาดทุน 4.56
- MOTHER เป้าหมาย 1.34 / 1.39 แนวรับ 1.25 จุดตัดขาดทุน 1.22 Depositary Receipts (DR)
- XIAOMI80 เป้าหมาย 17.60 / 17.90 แนวรับ 16.80 จุดตัดขาดทุน 16.50
KSS Commodities Update – 8-ธ.ค.-25
- น้ำมันดิบ Brent +0.77%DoD ปิดที่ US$ 63.75/barrel
- น้ำมันดิบ West Texas +0.69%DoD ปิดที่ US$ 60.08/barrel
- ถ่านหินล่วงหน้า Newcastle +0.92%DoD ปิดที่ US$ 109.25/ตัน
- ก๊าซธรรมชาติ NYMEX +4.46%DoD ปิดที่ US$5.289/MMBtu
- น้ำตาล -0.54%DoD ปิดที่ 14.8Cent/lb
- ถั่วเหลือง -1.27%DoD ปิดที่ 1105.25 Cent/bu
- น้ำมันปาล์ม +0.74%DoDปิดที่ 4095Myr/mt
- ยาง TOCOM +0.43%DoD ปิดที่ 325.4JPY/kg
- เหล็กเส้น 0.00%DoD ปิดที่ 456 CNY/MT
- ดัชนีค่าระวางเรือ BDI -4.15% ปิดที่ 2727 จุด
- ราคาทองคำ -0.23% ปิดที่ 4197.78 US$/Oz
- ราคาบิทคอย +0.88% ปิดที่ 90233.89 USD
